โดย Gina Lee
Investing.com – ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในเช้าวันนี้ แต่กำลังจะปิดท้ายสัปดาห์นี้แบบย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา การระบาดของโควิดในบางประเทศและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อตกลงภายในกลุ่ม OPEC+ เพื่อเพิ่มอุปทาน ทำให้แนวโน้มระยะสั้นของราคาน้ำมันหมองหม่น
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ทรงตัวที่ 73.47 ดอลลาร์เมื่อเวลา 12:58 น. ET (4:58 น. GMT) และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.08% เป็น 71.71 ดอลลาร์
การระบาดของโควิดได้กระตุ้นให้บางประเทศบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวด ส่งผลให้ความต้องการเชื้อเพลิงลดลง
อินโดนีเซียแซงหน้าอินเดียด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันมากที่สุดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาและกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดแห่งใหม่ในเอเชียแปซิฟิก ขณะที่ออสเตรเลียกำลังเข้าสู่การล็อคดาวน์เมืองเมลเบิร์นเช่นเดียวกับซิดนีย์ ไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม
ในสหรัฐอเมริกา ชาวลอสแองเจลีสได้รับคำสั่งให้สวมหน้ากากอนามัยในอาคาร รวมถึงผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วด้วย เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยโควิดยังคงเพิ่มขึ้น
ในขณะเดียวกัน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กำลังจะบรรลุข้อตกลงกับซาอุดีอาระเบียในขณะที่การเจรจายังคงดำเนินต่อไปและมีการเปิดเผยรายละเอียดบางส่วน ข้อตกลงดังกล่าวจะแก้ไขข้อพิพาทที่ยืดเยื้อมานานหลายสัปดาห์และอนุญาตให้ OPEC+ เพิ่มผลผลิตในเดือนต่อ ๆ ไป
ความต้องการอุปทานจากกลุ่ม OPEC+ จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอยู่เหนือระดับการผลิตในปัจจุบันและระดับก่อนเกิดวิกฤตโควิด ภายในครึ่งหลังของปี 2022 อย่างไรก็ตาม ภาวะชะงักงันที่เกิดขึ้นในไตรมาสแรกของปีนี้ อาจทำให้ตลาดน้ำมันกลับมาเกินดุลได้
การปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันในช่วง 7 เดือนก่อนหน้านี้ กลับมาพบอุปสรรคในเดือนกรกฎาคม ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังมีสัญญาณการฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด
สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศออกมาเตือนว่า ตลาดจะตึงตัวอย่างมาก หาก OPEC+ ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ และทำให้มีความเสี่ยงสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม Citigroup (NYSE:C) คาดการณ์ว่า สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์จะพุ่งขึ้นเหนือ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แม้ทางกลุ่มจะบรรลุข้อตกลงก็ตาม