Investing.com - ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาดเอเชียวันนี้หลังฟื้นจากการขาดทุนล่าสุด เนื่องจากความกลัวเกี่ยวกับความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่อาจรุนแรงขึ้นได้ชดเชยความกังวลที่ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจะกระทบต่ออุปสงค์
แต่ความกลัวเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ชะลอตัวยังคงทำให้ราคาน้ำมันดิบลดลงอย่างมากในเซสชั่นที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ได้กระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยที่อาจเกิดขึ้นภายในประเทศ
น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 1.3% เป็น 77.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 1.3% เป็น 76.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 22:44 ET (02:44 GMT)
อิหร่านและฮามาสเตรียมตัวตอบโต้อิสราเอล
ราคาน้ำมันได้รับการสนับสนุนจากความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของสงครามอิสราเอล-ฮามาส โดยเฉพาะหลังจากที่อิหร่านและฮามาสประกาศตอบโต้การสังหารผู้นำของกลุ่มฮามาสในกรุงเตหะราน
ในแนวหน้าของเลบานอน อิสราเอลยังคงรุกโจมตีฮิซบอลเลาะห์ต่อไป ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดการตอบโต้จากกลุ่มทหารสูง อิสราเอลอ้างว่าได้สังหารผู้นำของฮิซบอลเลาะห์คนสำคัญเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
โอกาสของการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาสดูเหมือนจะห่างไกลขึ้นเรื่อย ๆ และแนวโน้มของการความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้นก็ทำให้ตลาดมีการเพิ่มค่าพรีเมี่ยมความเสี่ยงให้กับน้ำมันดิบ
นุกลงทุนจะต้องจับตาดูการหยุดชะงักของอุปทานที่อาจเกิดขึ้นจากความขัดแย้ง ซึ่งอาจทำให้ตลาดน้ำมันตึงตัว แต่จนถึงขณะนี้สงครามอิสราเอล-ฮามาสและความขัดแย้งกับอิหร่านก็ทำให้การผลิตน้ำมันทั่วโลกหยุดชะงักเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตยังคงมีอยู่ จับตารอข้อมูลเพิ่มเติมจากจีน
ราคาน้ำมันมีการขาดทุนอย่างหนักตลอดเดือนที่ผ่านมา หลังจากร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเจ็ดเดือนเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตและความต้องการที่ชะลอตัว
ตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐที่อ่อนแอนั้นยังเกิดขึ้นหลังจากข้อมูลที่น่าผิดหวังจากจีน โดยเฉพาะในภาคการผลิตของประเทศ ซึ่งข้อมูลจีนที่อ่อนแอได้เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ชะลอตัวในประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก
อีกทั้งก็ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมจากจีนในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะรายงาน ดุลการค้า ในเดือนกรกฎาคมซึ่งจะเน้นไปที่การนำเข้าน้ำมันของประเทศ
ข้อมูล อัตราเงินเฟ้อ ก็ถูกคาดหวังว่าจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะความต้องการเชื้อเพลิงในภาคค้าปลีก