Investing.com - ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในตลาดเอเชียวันนี้และฟื้นตัวเล็กน้อยจากการขาดทุนล่าสุด เนื่องจากการคาดการณ์ตลาดที่ตึงตัวในระยะสั้นมีความชัดเจนมากขึ้นจากข้อมูลอุตสาหกรรมที่แสดงการลดลงของปริมาณน้ำมันดิบในสหรัฐฯ
แต่ราคาน้ำมันก็ยังคงขาดทุนอย่างหนักในเซสชั่นก่อนหน้านี้ เนื่องจากแนวโน้มของน้ำมันดิบย่ำแย่ลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเผชิญกับการคาดการณ์อุปทานเกินดุลในปี 2025 ความกังวลเกี่ยวกับจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ และการหารือการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาสก็ส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันดิบเช่นกัน
น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 0.5% เป็น 81.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.4% เป็น 76.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเวลา 21:02 ET (01:02 GMT)
ดัชนีทั้งสองเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังจากร่วงลงสู่ระดับที่อ่อนแอที่สุดตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน อีกทั้งความแข็งแกร่งของเงิน ดอลลาร์ ก็ส่งผลต่อตลาดน้ำมันดิบเช่นกัน
สินค้าคงคลังน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ลดลงอย่างไม่คาดคิด
ข้อมูลจาก สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน แสดงให้เห็นว่าปริมาณน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ลดลง 3.9 ล้านบาร์เรล (mb) ในสัปดาห์ของวันที่ 19 กรกฎาคม ซึ่งต่างกับที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.7 mb
ข้อมูลจาก API ซึ่งโดยปกติจะแสดงตัวเลขที่คล้ายกันกับข้อมูลสินค้าคงคลังน้ำมันอย่างเป็นทางการ ได้แสดงให้เห็นว่าปริมาณน้ำมันคงคลังลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สี่ เนื่องจากความต้องการน้ำมันน่าจะเพิ่มขึ้นในฤดูท่องเที่ยว
ข้อมูล API ยังแสดงการลดลงของปริมาณน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่น ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการในตลาดเชื้อเพลิงที่ใหญ่ที่สุดของโลกยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวคาดว่าจะทำให้ตลาดน้ำมันดิบตึงตัวในระยะสั้น
ข้อมูลน้ำมันคงคลัง อย่างเป็นทางการ จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานนั้นมีกำหนดการณ์จะเปิดเผยในวันนี้
แนวโน้มน้ำมันยังคงย่ำแย่จากความกลัวเกี่ยวกับอุปทานเกินดุล
แต่อุปทานที่ตึงตัวในตลาดน้ำมันก็คาดว่าจะชะลอลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดย Morgan Stanley คาดการณ์ว่าน้ำมันจะเกินความต้องการในช่วงต้นปี 2025 และธนาคารการลงทุนยังคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 77-79 ดอลลาร์ ภายในปีหน้า
การผลิตน้ำมันทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น รวมกับการคาดการณ์ความต้องการที่อ่อนลงในจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ คาดว่าจะทำให้ตลาดน้ำมันมีอุปทานเพียงพอในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
จีนถือเป็นจุดที่ส่งผลกระทบอย่างมากสำหรับตลาดน้ำมันดิบ ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศเติบโตน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสที่สอง ขณะที่การนำเข้าน้ำมันของประเทศก็ลดลงอย่างมากในเดือนมิถุนายน
การประชุม Plenum ครั้งที่สามของพรรคคอมมิวนิสต์จีนก็กลับให้เบาะแสเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของปักกิ่ง
ความเชื่อมั่นต่อจีนยังคงเปราะบางจากความไม่แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงในการบริหารของสหรัฐฯ จะส่งผลต่อจุดยืนของวอชิงตันที่มีต่อจีนอย่างไร