InfoQuest - สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (10 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่อิรักสนับสนุนให้กลุ่มโอเปกพลัสปรับลดการผลิตน้ำมันลงอีกก่อนการประชุมในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า และนักเก็งกำไรได้เข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบเพื่อชดเชยการทำชอร์ตเซลล์ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังคงติดลบในรอบสัปดาห์นี้จากการคาดการณ์แนวโน้มปริมาณน้ำมันส่วนเกินซึ่งได้บดบังความเสี่ยงด้านอุปทานที่อาจจะเกิดจากการทำสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 1.43 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 77.17 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ร่วงลงเกือบ 4.2% ในรอบสัปดาห์นี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 1.42 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 81.43 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ร่วงลง 4.1% ในรอบสัปดาห์นี้
นักวิเคราะห์ระบุว่า นอกจากความเห็นของอิรักที่ช่วยหนุนตลาดนั้น ซาอุดีอาระเบียและรัสเซียก็ได้ยืนยันในสัปดาห์นี้ว่า จะยังคงปรับลดการผลิตน้ำมันลงไปจนถึงสิ้นปี
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ส ซึ่งให้บริการด้านพลังงานระบุว่า บรรดาบริษัทพลังงานของสหรัฐได้ปรับลดการดำเนินงานของแท่นขุดเจาะน้ำมันลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2565
กลุ่มโอเปกพลัสและพันธมิตรซึ่งรวมถึงรัสเซียจะประชุมกันในวันที่ 26 พ.ย.นี้ ขณะที่กระทรวงน้ำมันของอิรักเปิดเผยว่า อิรักจะปฏิบัติตามข้อตกลงของโอเปกพลัสเกี่ยวกับระดับการผลิตน้ำมัน
นักวิเคราะห์คาดว่า มีโอกาสที่ซาอุดีอาระเบียจะขยายการปรับลดการผลิตไปจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้า เมื่อพิจารณาจากการที่ตลาดมีความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับอุปสงค์ของจีนและแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และคาดว่า กลุ่มโอเปกพลัสอาจจะปรับลดการผลิตน้ำมันลงอีก หากราคายังคงปรับตัวลง