ราคาน้ำมันต่ำลงเนื่องจากข้อมูลที่อ่อนแอของจีนสร้างความกังวล

© Reuters.

Investing.com -- ราคาน้ำมันขาดทุนเพิ่มเติมในการซื้อขายตลาดเอเชียวันนี้ ท่ามกลางความวิตกว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจะบั่นทอนอุปสงค์ในปีนี้ โดยตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าหดหู่จากจีนยิ่งบั่นทอนความเชื่อมั่น

ข้อมูลเงินเฟ้อของจีนน่าผิดหวัง

อัตราเงินเฟ้อของจีน ดัชนีเงินเฟ้อผู้บริโภค หดตัวในเดือนพฤษภาคมจากเดือนก่อน ขณะที่ ดัชนีราคาผู้ผลิต แตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศยังคงล่าช้าในไตรมาสที่สอง

รายงานประกอบกับตัวเลขทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอของประเทศในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ความเชื่อมั่นของการฟื้นตัวในจีนจะผลักดันอุปสงค์น้ำมันให้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้

ความกลัวอุปสงค์ที่ชะลอตัวได้กลบสัญญาณอุปทานที่ตึงตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่หลังจากซาอุดิอาระเบียลดการผลิตรอบใหม่ และทำให้ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มขาดทุนติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สอง

 เมื่อเวลา 22:18 ET (02:18 GMT) น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.7% เป็น 75.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.7% เป็น 70.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สัญญาทั้งสองถูกกำหนดให้ขาดทุนระหว่าง 0.6% ถึง 1.2% ในสัปดาห์นี้

ในขณะที่การนำเข้าน้ำมันของจีนยังคงเพิ่มขึ้นจนถึงเดือนพฤษภาคม นักวิเคราะห์ระบุว่าการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากโรงกลั่นในท้องถิ่นที่เพิ่มสินค้าคงคลัง และความต้องการเชื้อเพลิงของผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกยังคงอ่อนแอ

ข้อมูลของสหรัฐฯ ยังเป็นอุสรรคต่ออุปสงค์น้ำมันดิบ

ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอจากผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกยังทำให้ตลาดน้ำมันดิบหยุดชะงักในสัปดาห์นี้

ข้อมูลสินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า ดัชนีน้ำมันเบนซินคงคลัง เพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ลดความคาดหวังที่ว่าความต้องการเชื้อเพลิงจะเพิ่มขึ้นเมื่อฤดูร้อนที่การเดินทางหนาแน่นใกล้เข้ามา

สัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง โดยตัวชี้วัดล่าสุดแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมทางธุรกิจชะลอตัวไปจนถึงเดือนพฤษภาคม ในขณะที่ตลาดงานมีสัญญาณของการชะลอตัวลง ตัวเลขที่อ่อนแอได้ฉุดเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่าลง แต่ให้การสนับสนุนเพียงเล็กน้อยต่อราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากเทรดเดอร์ยังคงกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของสหรัฐที่ดูจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

รายงานเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน ซึ่งอาจทำให้ตลาดมีน้ำมันดิบมากขึ้น ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นในสัปดาห์นี้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวจะปฏิเสธข้อตกลงดังกล่าวก็ตาม

ขณะนี้โฟกัสของตลาดอยู่ที่ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ ที่กำลังจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า เพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติมว่าธนาคารกลางมีแผนจะดำเนินนโยบายอย่างไรท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่แย่ลง

ความคาดหวังของตลาดส่วนใหญ่หันไปทางการหยุดชั่วคราวในรอบการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งอาจให้การสนับสนุนน้ำมันในระยะสั้นเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลง

แต่เนื่องจากตัวบ่งชี้การบริโภคส่วนบุคคลและตลาดแรงงานล่าสุดยังคงดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ เทรดเดอร์ยังคงไม่แน่ใจว่าเฟดจะส่งสัญญาณอย่างไร

ความไม่แน่นอนนี้ยังส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันตลอดทั้งสัปดาห์