เมื่อคืนที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ได้รายงานงบดุลประจำสัปดาห์หดตัวลง US$ 74 พันล้าน และนับเป็นการหดตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค. หลัง FED ประกาศทำ QE เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับระบบการเงิน โดยงบดุลในส่วนของ Central bank liquidity swaps ลดลง US$ 92 พันล้าน โดยเป็นการหดตัวลงในสัปดาห์มากสุด นับตั้งแต่ FED มีการเปิดใช้ในปี 2008 และ Repurchase agreements ลดลง US$ 88 พันล้าน แต่อย่างไรก็ตาม งบดุลในส่วนของ U.S.Treasury Securities และ Mortgagebacked securities (MBS) ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องที่ระดับ US$ 18.9 พันล้าน และ 83.1 พันล้าน บ่งบอกถึงปัจจัยหนุนสภาพคล่องในตลาดหุ้นสหรัฐตลอดหลาย สัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มแผ่วลง ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐมีความเสี่ยงต่อการพักฐานต่อเนื่องในสัปดาห์ถัดไป
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ปัจจุบันมีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันทำ จุดสูงสุดใหม่อยู่ที่ 176,010 คน (ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 8.3 ล้านคน ณ วันที่ 17 มิ.ย.) ซึ่งมากกว่าวันก่อนหน้าที่ 139,479 คน โดยประเทศชิลีมีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวัน เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยที่ระดับ 35,179 คน จากวันก่อนหน้าที่ 5,013 คน (สหรัฐมียอดผู้ติด เชื้อรายวันที่ 25,559 คน)
เมื่อเย็นวานนี้ธนาคารกลางอังกฤษมีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ ระดับ 0.1% ประกาศขยายวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนตลายเชิง ปริมาณ (QE) เพิ่มอีก 1 แสนล้านปอนด์ สู่ระดับ 7.45 แสนล้านปอนด์
ในวันนี้แนะนำติดตามรายงานยอดขายปลีก (Rtail Sales) ของอังกฤษเดือนพ.ค. (ตลาดคาดขยายตัวที่ 5.7% สูงกว่าเดือนก่อนหน้าที่หดตัว 18.1%),ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของเยอรมนีเดือนพ.ค. (ตลาดคาดหดตัวลงที่ 0.3% น้อยกว่าเดือนก่อนที่หดตัว 0.7%,รายงานดัชนีการเติบโตของสินเชื่อธนาคาร (Bank Loan Growth) ของอินเดีย ,บัญชีเดินสะพัด (Current Account) ของสหรัฐไตรมาส 1 (ตลาดคาดลดลงที่ 103.0B ดีขึ้นกว่าครั้งก่อนที่ 109.8B)
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th
-ไม้ตายที่ FED อาจนำมาใช้สร้างความประหลาดใจให้ตลาด
-เฟด ยังคงเป็นผู้กำหนดชะตาโลก
กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้