Nvidia เตรียมซื้อกิจการ Groq มูลค่า 20 พันล้านดอลลาร์ ในดีลใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ตามรายงานของ CNBC
ราคาทองคําวันนี้ ปรับตัวขึ้นทะลุระดับ 4,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทําสถิติสูงสุดใหม่ จากแรงหนุนของความคาดหวัง ว่า เฟดจะเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงิน ประกอบกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังอยู่ในระดับสูง ใน ตลาดเอเชีย ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวอ่อนค่า แม้ตัวเลข GDP สหรัฐฯ จะออกมาแข็งแกร่ง แต่ยังไม่สามารถ เปลี่ยนมุมมองของตลาดต่อทิศทางดอกเบี้ยได้ ส่งผลให้นักลงทุนยังประเมินว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยได้อีกราว 2 ครั้งในปี 2569 ประกอบกับ นักวิเคราะห์ของ HSBC ระบุว่า การอ่อนค่าของดอลลาร์ในช่วงนี้สะท้อนการขยายตัว ของค่าพรีเมียมความเสี่ยง โดยมีความกังวลต่อความเป็นอิสระของเฟดเป็นปัจจัยสําคัญ มากกว่าปัจจัยเชิงนโยบาย เพียงอย่างเดียว ขณะเดียวกัน ท่าที่เชิงผ่อนคลายด้านสภาพคล่องของเฟด และการที่ประเทศพัฒนาแล้วในกลุ่ม G10 หลายแห่งยังคงตรึงนโยบายการเงินไว้ ทําให้แนวโน้มดอลลาร์ยังเอนเอียงไปทางอ่อนค่า ซึ่งช่วยเพิ่มความน่า สนใจของทองคําในสายตานักลงทุนต่างชาติ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากเงินเยนที่แข็งค่าหลังญี่ปุ่นส่ง สัญญาณแทรกแซงตลาด FX และรายงานการประชุม BOJ ชี้ถึงความจําเป็นในการปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับเป็นกลาง การเจรจากับสหรัฐฯ และพันธมิตร ซึ่งหากนําไปสู่การยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนได้ อาจลดความต้องการทองคําใน ฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลงในระยะถัดไป ทั้งนี้ นักลงทุนควรจับตาตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของ สหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจมีผลต่อค่าเงินดอลลาร์ แนวโน้มดอกเบี้ย และทิศทางราคาทองคําต่อไป อย่างไรก็ดี Reuters รายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เปิดเผยความคืบหน้าเอกสารร่างหลายฉบับหลัง
คําแนะนํา
• สําหรับกลยุทธ์การลงทุน ขายทํากําไรหากไม่ผ่าน 4,501-4,535 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• หากผ่าน 4,535 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ชะลอขายที่แนวต้านถัดไป พร้อมขยับ Trailing Stop มาเหนือทุนเพื่อ Lock กําไร
• เสี่ยงซื้อถ้าราคาไม่หลุด 4,468 - 4,430 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• ตัดขาดทุนหากหลุด 4,430 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอซื้อที่แนวรับถัดไป
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th
