Thai & U.S. politics/TMAN
• SET: ตลาดหุ้นไทยยังคงอยู่ในภาวะซึมๆ โดยวอลุ่มการซื้อขายลดลงมา อยู่ในระดับต่ําสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่ดัชนี SET จะทะลุ 1400 จุดขึ้นมา คาดส่วนหนึ่งเกิดจากปัจจัยการเมืองที่เรากล่าวไป เมื่อวานนี้ หันกลับมาที่วันนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกมีโอกาสถูกกดดันเล็กน้อย จาก Bond yield สหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้นทําจุดสูงสุดใหม่ของรอบ จากความ คาดหวังการลดดอกเบี้ย Fed ที่ลดลง รวมถึงการ Price in ความเป็นไปได้ ที่นาย Donald Trump จะคว้าชัยจากการชิงชัยตาแหน่งปธน.สหรัฐฯที่มาก ขึ้น (รูปที่ 1) ซึ่งอาจนามาสู่การออกพันธบัตรสหรัฐฯ (Supply) ขนานใหญ่ ที่รออยู่ได้ อย่างไรก็ดี เรายังไม่เห็นสัญญาณการปรับขึ้นของ Bond yield ไทยมากนัก (รูปที่ 2) ซึ่งยังคงถือเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อ SET Index บน มาตรวัด Earning yield gap
• Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ มองกลุ่มหุ้น Rate-sensitive และ Bond-liked ภายในประเทศ ยังคงได้เปรียบในสภาวะที่ Bond yield ของไทยยังคงทรง ตัวต่อ โดย Top pick ของเราในกลุ่มนี้ประจําไตรมาส 4 ยังคงได้แก่ SAWAD, AEONTS, KTC, DIF, CPNREIT เป็นต้น มองปัจจัยเฝ้าระวัง ที่อาจต้องติดตามในช่วง 1 เดือนข้างหน้าได้แก่ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ซึ่งหากออกมาในกรณีที่ Trump ได้รับชัยชนะ หรือแย่ไปกว่านั้นคือกรณี Red sweep จะส่งผลกดดันต่อตลาดหุ้นเกิดใหม่ ผ่านความกังวลสงคราม การค้าที่อาจกลับมารุนแรงอีกครั้ง รวมถึงเม็ดเงินที่อาจโยกย้ายเข้าสู่ตลาด หุ้นสหรัฐฯมากขึ้น เนื่องจากจะเป็นตลาดหุ้นที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจาก มาตรการลดภาษีต่างๆของ Trump
•TMAN: เชา อขายวันแรกในกระดาน SET Index วันนี้ บริษัทเป็นหนึ่งใน ผู้นําธุรกิจเวชภัณฑ์ยา พร้อมทีม R&D ที่แข็งแกร่ง หนุนการต่อยอด ผลิตภัณฑ์อย่างรวดเร็ว และทําการกระจายสินค้าเอง จึงสามารถเข้าถึง ข้อมูลความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุดและรวดเร็ว ส่งผลให้มี ความสามารถในการทํากําไรได้สูงกว่าเทียบกับบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรม เดียวกัน เราคาดอัตราการเติบโตเฉลี่ยของก๋าไรปี 2567-2569 (CAGR) ร้อยละ 12.5 ต่อปี จากการเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการ น่ กลุ่มโรงพยาบาล และการเพิ่มกําลังการผลิต ประเมิน Fair value ปี 2567 ที่ 26.40 บาท ด้วยวิธี DCF อิง WACC ที่ร้อยละ 8.5 เทียบเท่า Forward P/E Ratio ปี 2567 ที่ 23.8 เท่า ซึ่งใกล้เคียง กับค่าเฉลี่ยของหุ้นในกลุ่ม
• KBANK (BK:KBANK): ประกาศกาไร 3Q67 ที่ 11,419 ล้านบาท อ่อนตัว 10%QoQ แต่ยังเติบโตได้เล็กน้อย 1%YOY ตากว่าที่คาดไว้ก่อนหน้าราว 6% เราคาด ก่าไร 4Q67 อาจอ่อนตัว QoQ จากค่าใช้จ่ายตามฤดูกาล สําหรับปี 2568 เราคาดก่าไรจะเติบโตไม่มาก แม้ว่าแนวโน้มสารองหนี้จะลดลง แต่ NIM อาจอ่อนตัวลง ตามการปรับลดของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย บวกกับสินเชื่อ อาจเติบโตได้ไม่มาก เนี่องจากธนาคารยังต้องระมัดระวังด้านคุณภาพหนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกหนี้ SME และรายย่อย เราคงราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 155 บาท อิง PBV 0.61 เท่า โดยราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมา จากช่วงไตรมาสก่อนท่าให้ Upside ค่อนข้างจํากัด จึงปรับค่าแนะนํา เป็น “ อ
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities