THB yield / ECB / BBL / PTTGC
• SET: SET Index ยังคงเดินหน้าปรับตัวแข็งแกร่งและ Outperform ตลาดหุ้น EM อื่น จากปัจจัยหนุนเฉพาะตัวล่าสุดที่เกิดขึ้นจากการลด ดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งส่งผ่านมายั่งการปรับลดของอัตราดอกเบี้ยต่างๆใน ตลาดมากขึ้น ล่าสุดเช้านี้ Bond yield ของไทยรุ่น 2 ปีลงมาอยู่ที่ 2.11% และรุ่น 10 ปีลงมาอยู่ที่ 2.41% (รูปที่ 1) ทั้งนี้ หากอ้างอิงจากตาราง Earning yield gap (EYG) ของเราเมื่อวานนี้ จะได้ว่าระดับ SET Index เป้าหมายทีอิงกับ Bond yield 10 ปีประมาณ 2.40% จะสามารถมี Upside เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1530 จุด จาก 1510 จุดในวันก่อนหน้า ด้วยเหตุนี้ใน ระยะสั้น จึงคาด SET Index จะยังมีโมเมนตัมที่ดีต่อไป โดยเฉพาะกลุ่ม Rate-sensitive อย่างไฟแนนซ์และอสังหาฯ รวมถึงกลุ่ม Bond-liked อย่าง IFF/REIT/Utilities ซึ่งถ้าหากเลือกเฉพาะหุ้นที่ยังคงมี Valuation ต่ากว่าค่าเฉลี่ยอยู่ในปัจจุบัน จะได้แก่ SAWAD, TIDLOR, KTC, JMT, SAK, QH, CPNREIT, DIF, EGCO
• ECB: สําหรับปัจจัยที่เกิดขึ้นวานนี้ ได้แก่การปรับลดดอกเบี้ย Key rats ของธนาคารกลางยุโรปลงจากเดิม 0.25% ซี่งถือเป็นสิ่งที่ตลาดคาดการณ์ ไว้อยู่แล้ว จึงมองไม่มีผลกระทบมากนัก ทั้งนี้ นักลงทุนในตลาดยังคง คาดการณ์ว่าการประชุมครั้งสุดท้ายที่รออยู่ในวันที่ 12 ธ.ค. ECB จะมีมติ ปรับลดดอกเบี้ยได้อีก 0.25% ท่ามกลางภาวะ Disinflation ที่ยังคงด่าเนิน ไปอย่างต่อเนื่อง (ล่าสุด CPI กลุ่มยูโรโซนขยายตัวเพียง 1.7% ในเดือน ก.ย. ต่าสุดในรอบ 3.5 ปี)
• BBL ประกาศกําไร 3067 ที่ 12,476 ล้านบาท ดีขึ้น 6%QoQ และ 10%YoY ดีกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้าราว 13% โดย NIM ปรับตัวดีขึ้นราว 6 bps ด้านรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยปรับตัวดีขึ้นถึง 20%QoQ จากกําไรเงิน ลงทุน ขณะที่ค่าใช่จ่ายสํารองหนี้ลดลง 21%QoQ เป็นปัจจัยหนุนก้าไรใน ไตรมาสนี้เช่นกัน แต่สัดส่วน NPL เพิ่มขึ้นค่อนข้างมากราว 31 bps ส่งผล ให้สัดส่วน NPL Coverage Ratio ลดลงเหลือราว 250% จาก 269% ใน 2Q67
• เราปรับประมาณการกําไรปี 2567 ขึ้นเล็กน้อยราว 5% จากประมาณการ ก่อนหน้ามาอยู่ที่ 43,803 ล้านบาท (+5%YoY) เพื่อสะท้อนแนวโน้มผล การดาเนินงานใน 3067 ที่ดีกว่าคาด สําหรับแนวโน้มปี 2568 คาดก้าไร เติบโตได้ดีขึ้น (+4.3% YoY) จากการฟื้นตัวของสินเชื่อ ผ่านการเติบโต ของเศรษฐกิจ แม้ว่าอาจเห็นแรงกดดันจากการลดดอกเบี้ยนโยบายที่ กระทบ NĪM บ้างก็ตาม คงคําแนะนํา “ซื้อ” ในเชิงพื้นฐานที่ราคา เป้าหมายใหม่ 185 บาท อิง PBV 0.62 เท่า
• PTTGC: คาดบริษัทจะพลิกกลับมารายงานเป็นขาดทุนใน 3Q67 ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท โดยหลักเป็นการบันทีกขาดทุนด้อยค่าของธุรกิจ Vencorex ราว 9 พันล้านบาท และมีคาดว่าจะมี Stock loss ราว 3 พันล้าน บาท FX & Hedging gain ราว 3.5 พันล้านบาท ถ้าไม่นับรวมรายการพิเศษ ต่างๆดังกล่าว ผลการดาเนินงานคาดว่าจะยังเป็นขาดทุนราว 2.5 พันล้าน บาท
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities