🙌 นี่คือ: เครื่องมือคัดกรองหุ้นเดียวที่คุณจำเป็นต้องมีเริ่มต้นเลย

จับตาการประชุม กนง. ของไทย และการประชุม ECB พร้อมลุ้นรายงานผลประกอบการบ.จดทะเบียน

เผยแพร่ 15/10/2567 09:16

จับตาการประชุม กนง. ของไทย และการประชุม ECB พร้อมรอลุ้น รายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน 

  • สัปดาห์ที่ผ่านมา การอ่อนค่าของเงินบาทนั้นถูกชะลอลงด้วย แรงขายเงินดอลลาร์จากผู้ส่งออก การรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำ และจังหวะอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาผสมผสาน 
  • ควรรอติดตาม ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย และผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) พร้อมรอลุ้น รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน
  • เงินดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้นได้ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาที่ดีกว่าคาด นอกจากนี้ เงินดอลลาร์อาจพอได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินยูโร หาก ECB ลดดอกเบี้ยตามคาดและส่งสัญญาณพร้อมลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม ในส่วนของค่าเงินบาท เราคงมั่นใจแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินบาท ตราบใดที่เงินบาทไม่ได้แข็งค่าทะลุโซน 33 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งต้องจับตาผลการประชุม กนง. ทิศทางเงินหยวนจีนและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (ทองคำกับน้ำมันดิบ) ทั้งนี้ เงินบาทอาจถูกกดดันจากแรงขายสินทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติ ทว่า การอ่อนค่าของเงินบาทอาจถูกชะลอลงจากแรงขายเงินดอลลาร์/การปรับสถานะ Short THB (มองเงินบาทอ่อนค่าลง) ของผู้เล่นในตลาด ในช่วงระยะสั้นนี้
  • มองกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้
    33.00-33.65
    บาท/ดอลลาร์

มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก

  • ฝั่งสหรัฐฯผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ อาทิ ยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนกันยายน รวมถึงข้อมูลยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims)  นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดเพื่อประเมินแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด และนอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าว เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดจะให้ความสนใจกับรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะหุ้นเทคฯ ใหญ่ ธีม AI/Semiconductor อาทิ ASML, TSMC รวมถึงหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน อย่าง BofA, Goldman Sachs เป็นต้น
  • ฝั่งยุโรปประเด็นสำคัญ คือ ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) โดยเราประเมินว่า ECB มีโอกาสลดดอกเบี้ย (Deposit Facility Rate) -25bps สู่ระดับ 3.25% พร้อมกันนั้น ECB อาจส่งสัญญาณพร้อมทยอยลดดอกเบี้ยลงเพิ่มเติมในปีนี้ ตามแนวโน้มการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งอาจสะท้อนผ่านการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของทาง ECB ทั้งนี้ เรามองว่า ควรจับตาการส่งสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซนและทิศทางนโยบายของ ECB ผ่านถ้อยแถลงของประธาน ECB นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ผ่านรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ทั้งข้อมูลการจ้างงานเดือนสิงหาคม อัตราเงินเฟ้อ CPI รวมถึงยอดค้าปลีก (Retail Sales) ในเดือนกันยายน
  • ฝั่งเอเชียผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานยอดการค้าระหว่างประเทศ (Exports & Imports) ของจีน และรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญรายเดือน อาทิ ยอดค้าปลีก (Retail Sales) ยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) ในเดือนกันยายน และอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 เพื่อประเมินแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์จีน (โดยเฉพาะตลาดหุ้นและค่าเงินหยวนจีน) ได้พอสมควรในช่วงนี้ ส่วนในฝั่งญี่ปุ่น ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ผ่านรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI เดือนกันยายน และรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่น ผ่านรายงานยอดการส่งออกและนำเข้าเดือนกันยายนเช่นกัน ในส่วนนโยบายการเงิน นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างประเมินว่า ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) มีโอกาสที่จะเดินหน้าลดดอกเบี้ยลง -25bps สู่ระดับ 6.00% เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการชะลอลงของเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายของ BSP ขณะที่ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) อาจเลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 6.00% เพื่อประเมินผลกระทบจากการลดดอกเบี้ย -25bps ในช่วงก่อนหน้า ทั้งนี้มีโอกาสที่ BI จะส่งสัญญาณพร้อมทยอยลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมได้ ตามแนวโน้มการชะลอลงของเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อเช่นกัน ส่วนค่าเงินอินโดนีเซียรูเปียะห์ (IDR) ก็มีเสถียรภาพมากขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้าที่มีจังหวะอ่อนค่าลงต่อเนื่อง จน BI ต้องขึ้นดอกเบี้ยในช่วงต้นปีนี้ 
  • ฝั่งไทยไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเราประเมินว่า กนง. อาจมีมติ 6-1 หรือ 5-2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 2.50% ตามเดิม ทั้งนี้ เราจะจับตาการสื่อสารของทาง กนง. ว่ามีความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและปัจจัยเสี่ยงต่างๆ มากน้อยเพียงใด รวมถึง กนง. มีการปรับคาดการณ์เศรษฐกิจในเชิงแย่ลงหรือไม่ เพื่อประเมินโอกาสที่ กนง. จะเริ่มทยอยลดดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งจะเร็วกว่าที่เราประเมินไว้ว่า การลดดอกเบี้ยครั้งแรกอาจเริ่มในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า นอกจากนี้ ควรจับตาฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ หลังนักลงทุนต่างชาติยังคงทยอยขายสินทรัพย์ไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแรงขายสินทรัพย์ไทยดังกล่าวก็มีส่วนกดดันให้เงินบาททยอยอ่อนค่าลงเช่นกัน

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย