จับตา รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ และข้อมูลเศรษฐกิจจีน พร้อมลุ้นผลการประชุม ECB

เผยแพร่ 10/09/2567 08:19

จับตา รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ และข้อมูลเศรษฐกิจจีน พร้อมลุ้นผลการประชุม ECB

  • สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าขึ้นมากกว่าที่คาด ตามจังหวะการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาแย่กว่าคาด โฟลว์ขายทำกำไรทองคำและแรงซื้อสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติ 
  • ควรรอจับตา ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) พร้อมรอลุ้น รายงานข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญรายเดือนของจีน
  • เงินดอลลาร์อาจรีบาวด์ขึ้นบ้าง หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้ออกมาแย่กว่าคาดชัดเจน หรืออัตราเงินเฟ้อไม่ได้ชะลอตัวลงหนัก นอกจากนี้ เงินดอลลาร์อาจพอได้แรงหนุนจากบรรยากาศปิดรับความเสี่ยงของตลาดและโอกาสที่เงินยูโร (EUR) อาจอ่อนค่าลง หาก ECB ส่งสัญญาณพร้อมลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง ในส่วนของค่าเงินบาท เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทมีโอกาสทยอยอ่อนค่าลง แต่อาจแข็งค่าขึ้นบ้าง หากผู้เล่นในตลาดยังคงเชื่อมั่นว่าเฟดจะเร่งลดดอกเบี้ย อนึ่ง ควรจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีน ที่จะกระทบทิศทางเงินหยวนจีน (CNY) พร้อมติดตามทิศทางฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งอาจเริ่มทยอยขายทำกำไรสินทรัพย์ไทย รวมถึงจับตาการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะราคาทองคำ
  • มองกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้
    33.40-34.10
    บาท/ดอลลาร์

มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก

  • ฝั่งสหรัฐฯผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI รวมถึง ดัชนีราคาผู้ผลิต PPI เดือนสิงหาคม ซึ่งจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของเฟดในการประชุมเดือนกันยายนนี้ได้ โดยหากอัตราเงินเฟ้อชะลอลงมากกว่าคาด หรือ ชะลอลงต่อเนื่อง ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงคาดหวังว่า เฟดอาจเร่งลดดอกเบี้ย -125bps ได้ทั้งในปีนี้และในปีหน้า นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯ ผ่านรายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) ทั้งนี้ แนวโน้มยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน ทั้ง ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) และยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานต่อเนื่อง (Continuing Jobless Claims) ยังไม่ได้สะท้อนภาพตลาดแรงงานที่แย่ลงชัดเจนอย่างที่บรรดาผู้เล่นในตลาดต่างกังวล ทำให้เราคงมุมมองเดิมว่า เฟดอาจทยอยลดดอกเบี้ยราว -25bps ในแต่ละการประชุมที่เหลือในปีนี้ รวมเป็นการลดดอกเบี้ย -75bps และลดดอกเบี้ยอีกราว -100bps ในปีหน้า ทว่า เฟดก็มีโอกาสลดดอกเบี้ยได้มากกว่าที่เราประเมินไว้ หากตลาดแรงงานสหรัฐฯ แย่ลงชัดเจน มากกว่าที่เราคาด ซึ่งควรจะเห็นการเร่งตัวขึ้นของยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน พร้อมกับยอดการจ้างงานที่ลดลงต่อเนื่อง 
  • ฝั่งยุโรปไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) โดยเรามองว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย (Deposit Facility Rate) -25bps สู่ระดับ 3.50% พร้อมกันนั้น ทาง ECB อาจส่งสัญญาณพร้อมทยอยลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง สอดคล้องกับมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ประเมินว่า ECB จะสามารถลดดอกเบี้ยได้ราว 2-3 ครั้งในปีนี้ (รวมการประชุมเดือนกันยายน) นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ผ่านรายงานข้อมูลตลาดแรงงานอังกฤษ ซึ่งหากตลาดแรงงานอังกฤษชะลอตัวลงมากขึ้นชัดเจน ก็อาจเพิ่มโอกาสที่ BOE อาจลดดอกเบี้ยได้มากกว่าที่ผู้เล่นในตลาดประเมินไว้ (ล่าสุดผู้เล่นในตลาดเชื่อว่า BOE อาจลดดอกเบี้ยได้อีกราว 1-2 ครั้ง) ซึ่งในกรณีดังกล่าวอาจกดดันให้เงินปอนด์อังกฤษ (GBP) อ่อนค่าลงได้บ้าง นอกจากนี้ ควรจับตาสถานการณ์การเมืองฝรั่งเศส หลังฝรั่งเศสได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ Michel Barnier ผู้เคยเป็นหัวหน้าทีมเจรจาข้อตกลง Brexit ของทางสหภาพยุโรป (EU) ทั้งนี้ การเมืองฝรั่งเศสยังมีความไม่แน่นอนอยู่ เนื่องจากรัฐบาลของนายกฯ Michel Barnier มีความเสี่ยงเผชิญการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และเริ่มเจอการประท้วงต่อต้านจากประชาชน หลังพรรคฝั่งซ้าย (New Popular Front) ที่ชนะการเลือกตั้งกลับไม่ได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลและได้ตำแหน่งนายกฯ อย่างที่ควรจะเป็น 
  • ฝั่งเอเชียผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีนในเดือนสิงหาคม อาทิ ยอดค้าปลีก (Retail Sales) ยอดการส่งออกและนำเข้า (Export & Imports) และอัตราเงินเฟ้อ CPI ซึ่งหากข้อมูลดังกล่าวออกมาดีกว่าคาด สะท้อนภาพการฟื้นตัวที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจจีน ก็อาจช่วยหนุนความเชื่อมั่นของผู้เล่นในตลาด ส่งผลดีต่อแนวโน้มตลาดการเงินจีนและอาจช่วยพยุงค่าเงินหยวนของจีน (CNY) 
  • ฝั่งไทยผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence) เดือนสิงหาคม เพื่อประเมินแนวโน้มการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์สำคัญของเศรษฐกิจ

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย