- สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้เงินดอลลาร์จะทยอยแข็งค่าขึ้นตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ที่ออกมาดีกว่าคาด แต่เงินบาทยังพอได้แรงหนุนจากโฟลว์ธุรกรรมทองคำ รวมถึงฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ
- ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดรับรู้ รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ พร้อมจับตา ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลัก ทั้ง เฟด ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และ ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE)
- เงินดอลลาร์เสี่ยงผันผวนสองทิศทาง (Two-Way Volatility) ซึ่งจะขึ้นกับการปรับมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด หลังรับรู้รายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ทั้งนี้ เราคงมุมมองเดิมว่า เงินดอลลาร์อาจทยอยแข็งค่าขึ้น หากตลาดแรงงานสหรัฐฯ ไม่ได้ชะลอตัวลงหนัก ในส่วนของค่าเงินบาท แม้เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทมีโอกาสทยอยอ่อนค่าลง แต่ก็มีความเสี่ยงผันผวนสองทิศทางไม่ต่างกับเงินดอลลาร์ ขึ้นกับมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด นอกจากนี้ ควรจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจจีน ซึ่งอาจกระทบทิศทางเงินหยวนจีน (CNY) ทิศทางฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ รวมถึงการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งทองคำและน้ำมันดิบ ซึ่งมีผลกับทิศทางเงินบาทได้เช่นกันในช่วงนี้
- มองกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้
33.75-34.50 บาท/ดอลลาร์
มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก
- ฝั่งสหรัฐฯ – ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ อาทิ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ (ISM Manufacturing and Services PMIs) เดือนสิงหาคม รวมถึง ข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ซึ่ง เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดจะให้ความสนใจกับ รายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Nonfarm Payrolls) และอัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) เป็นพิเศษ หลังถ้อยแถลงของประธานเฟด Jerome Powell ล่าสุด ได้สะท้อนว่า เฟดได้ให้ความสำคัญต่อภาวะตลาดแรงงานของสหรัฐฯ มากขึ้นชัดเจน โดยเรามองว่า ข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ดังกล่าวจะสะท้อนถึงโอกาสที่เฟดจะเร่งลดดอกเบี้ยราว -50bps ในการประชุมเดือนกันยายน และโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยราว -100bps ในปีนี้ โดยหากยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมเพิ่มขึ้น 1.6 แสนตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานก็ลดลงสู่ระดับ 4.2% ตามที่บรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ หรืออาจออกมาดีกว่าคาด ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างคลายกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากขึ้น และปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งอาจหนุนให้ทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ในทางกลับกัน หากยอดการจ้างงานเพิ่มขึ้นน้อยกว่า หรือใกล้เคียง 1 แสนต่ำแหน่ง อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.4% หรือสูงกว่า ก็อาจยิ่งทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างกังวลต่อความเสี่ยงเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจชะลอตัวลงหนัก หรือ เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ทำให้ผู้เล่นในตลาดคงคาดหวังว่า เฟดต้องเร่งลดดอกเบี้ย และอาจกดดันให้บรรยากาศในตลาดการเงินเข้าสู่ภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) ได้ไม่ยาก ซึ่งในภาพดังกล่าว เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจปรับตัวลดลง ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ อาจเผชิญแรงขายพอสมควร
- ฝั่งยุโรป – ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) รวมถึง รอลุ้นรายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) ของยูโรโซน ในเดือนกรกฎาคม เพื่อประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของทั้ง ECB และ BOE ซึ่งล่าสุด ผู้เล่นในตลาดต่างประเมินว่า ECB อาจลดดอกเบี้ยได้อีกราว 2-3 ครั้ง ส่วน BOE ก็อาจลดดอกเบี้ยได้เพียง 1-2 ครั้ง ในปีนี้ และนอกเหนือจากประเด็นแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของ ECB เรามองว่า ควรจับตาสถานการณ์การเมืองฝรั่งเศส หลังการจัดตั้งรัฐบาลผสม รวมถึงการเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่และการจัดตั้งคณะรัฐมนตรียังไม่เป็นที่เรียบร้อย แม้ว่าการเลือกตั้งจะจบลงไปตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม โดยเราประเมินว่า ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองฝรั่งเศส อาจเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดทุนฝรั่งเศส และอาจกดดันให้เงินยูโร (EUR) อ่อนค่าลงได้
- ฝั่งเอเชีย – ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานดัชนี Caixin PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ ของจีนในเดือนสิงหาคม เพื่อประเมินแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน โดยดัชนีดังกล่าวจะสะท้อนภาพกิจกรรมทางเศรษฐกิจของบรรดาธุรกิจขนาดเล็ก-กลางเป็นหลัก พร้อมกันนั้น ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญรายเดือนของเวียดนาม อาทิ ยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนสิงหาคม รวมถึงอัตราเงินเฟ้อ CPI ส่วนในฝั่งนโยบายการเงินนั้น บรรดานักวิเคราะห์ต่างประเมินว่า ธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) อาจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 3.00% ตามเดิม
- ฝั่งไทย – ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI เดือนสิงหาคม โดยเฉพาะในส่วนของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ว่าจะมีทิศทางที่ชะลอตัวลงมากขึ้นหรือไม่ ซึ่งจะช่วยสะท้อนแนวโน้มความต้องการบริโภคในประเทศ พร้อมกันนั้น ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิต และดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ (Business Sentiment) ในเดือนสิงหาคม