Expectations vs. Reality / 1370 / Jackson Hole
• SET: ดัชนี SET ยังคงเดินหน้าขึ้นอย่างต่อเนื่อง และถือเป็นตลาดที่ Outperform ประเทศอื่นอย่างเห็นได้ชัดนับตั้งแต่มีการเปลี่ยนตัวนายกฯ คนใหม่ การปรับขึ้นในรอบนี้มาพร้อมกับความคาดหวังที่สูง จากแนวนโยบายต่างๆ ที่คาดว่าจะทยอยเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจและการ ลงทุนในช่วงถัดไป ทั้งนี้ หากจะประเมินว่าความคาดหวังนี้มีโอกาสสั้นสุด ลงเมื่อใด มองว่าข่าวดีทางการเมืองสุดท้ายที่รออยู่ในระยะสั้นอาจ เป็นการเปิดโผครม.ชุดใหม่และการแถลงนโยบายของรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในกลางเดือนกันยายนนี้ เมื่อถึงตรงนั้น เรามองว่าอาจจําเป็นที่จะต้องหันกลับมาพิจารณาภาพความเป็นจริง หรือปัจจัยพื้นฐานกันมากขึ้น
• Fundamental: สําหรับภาพความเป็นจริง ต้องบอกว่ายังไม่ได้มี ปัจจัยพื้นฐานใดสนับสนุนมากนัก โดยเฉพาะในส่วนของ Earnings ซึ่งยัง ไม่เห็นสัญญาณการปรับขึ้นแต่อย่างใด ดังนั้นเราพอจะกล่าวได้ว่าการปรับ ขึ้นมาของ SET รอบนี้มาจากการถูก Re-rate ตัวคูณหรือ Multiple ก็คงไม่ ผิด ซึ่งถือเป็นการกลับตัวคืนเข้าสู่ภาวะปกติเดิมหรือเป็นการกลับเข้าหา Valuation ที่ Base-line scenario นั่นเอง
• 1370: ซึ่งหากพิจารณาจากพื้นฐาน Valuation อิงตามวิธี PE Model ของเรา (รูปที่ 1) จะได้ว่าระดับยุติธรรมของ SET ยังคงอยู่ที่บริเวณเดิม 1370 จุด ซึ่งเป็นกรณีฐานที่เรามองว่าค่อนข้าง Bullish ในระดับหนึ่งแล้ว เนี่องจากอิงทั้งในส่วนของประมาณการ EPS ของ SET ปีหน้าที่ 107 บาท (เทียบกับ Consensus ปัจจุบันที่ 103 บาท) และอิงบนสมมติฐานดอกเบี้ย นโยบายสิ้นปีนี้ที่ 2.25% ไปแล้ว (เทียบกับปัจจุบันที่ 2.50%)
• Strategy: ด้วยเหตุนี้ในเชิงกลยุทธ์ อาจแบ่งเป็น 2 แนวทางสําหรับ ผู้ที่ถือหุ้นอยู่ กล่าวคือ 1) ถือ Let profit run ไปจนถึงการประกาศ รายชื่อครม.และการแถลงนโยบายใหม่ ซึ่งน่าจะเป็นข่าวดีทาง การเมืองสุดท้ายในระยะสั้น หรือ 2) ถือ Let profit run ไปจนถึง ระดับ SET 1370 จุด ซึ่งตรงกับกรณีฐานตามวิธี PE Model ของเรา ทั้งนี้ หากต้องการสะสมหุ้นในช่วงนี้ที่ SET ขึ้นมาในระดับหนึ่งแล้ว มองว่าอาจต้อง Selective ไปยังหุ้นที่ยังคง Laggard YTD อยู่ ซึ่งหากคัดเฉพาะในกลุ่ม Domestic demand แล้ว จะได้แก่ AP, LH, QH, CRC, HMPRO, M, BCH, JMT, TIDLOR เป็นต้น
• Jackson Hole: สาระสําคัญจากถ้อยแถลงของนาย Jerome Powell ประธาน Fed ณ การประชุมที่เมือง Jackson Hole เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้แก่การที่นาย Powell มีความมั่นใจว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯจะกลับไปสู่ระดับ ยั่งยืนที่ 2% ได้ พร้อมกับการรักษาตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง และจะไม่ ยินดีนักหากตลาดแรงงานสหรัฐฯมีการอ่อนตัวเพิ่มเติมต่อจากนี้ สะท้อนถึง โฟกัสของ Fed ณ ขณะนี้ที่เริ่มเอนเอียงมาให้ความสําคัญต่อภาพ ตลาดแรงงานมากขึ้นตามล่าดับ นอกจากนั้น นโยบาย Fed จะต้องปรับตัว เพราะระดับดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันมี Policy space ที่เหลือเฟือเพียงพอแล้ว ยังบ่งชี้ว่าเวลาถึงเวลาแล้วที่
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities