คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรนูญให้ ยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิรับสมัคร เลือกตั้งกรรมการบริหาร 11 คน เป็นระยะเวลา 10ปี พิจารณาจากการ เคลื่อนไหวของ SET INDEX วานนี้เห็นได้ว่าไม่ได้มทีผลกระทบอย่างมี นัยสำคัญ อย่างไรก็ตามยังเหลือการรอฟังคำวินิจฉัย กรณีคำร้องให้ ถอดถอน นายกฯ เศรษฐา ในวันพุธหน้า (14 ส.ค.67) ในกรณีเลวร้าย เรา เชื่อว่าจะเกิดสุญญากาศทางการเมืองไม่นานจากการที่พรรคร่วมรัฐบาล ยังจับมือกันแน่น ซึ่งก็น่าจะทำให้การชะงักของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ต่างๆ มีไม่มาก แต่หากในกรณีที่ นายกฯเศรษฐา ไม่ถูกถอดถอน SET INDEX ก็น่าจะตอบสนองเชิงบวก ส่วนปัจจัยภายนอกยังให้ความสำคัญ กับความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ในตะวันออกกลาง และ ทิศทางดอกเบี้ย สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น ที่มีผลต่อปรากฎการณ์ CARRY TRADE คาดว่า SET INDEX น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1280 – 1300 จุด โดย ติดตามทั้งเรื่องความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ และการเมืองในประเทศ ส่วน หุ้น TOP PICK เลือก AMATA, CPALL (BK:CPALL) และ PLANB
อารมณ์ตลาด COOL DOWN เรื่อง RECESSION วานนี้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียขยับขึ้นต่อเนื่อง นำโดยเกาหลีใต้ +1.8%, ฟิลิปปินส์ +1.6%, ฮ่องกง +1.4%, ญี่ปุ่น +1.2% ส่วนบ้านเรา +1.3% จาก 2 ประเด็นบวก หลักๆ ได้แก
1. ความกังวล UNWIND YEN CARRY TRADE ผ่อนคลายลงชั่วคราว หลัง รองผู้ว่าการ BOJ (นายชินอิจิ อุชิดะ) ยืนยันว่าจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก หาก ตลาดการเงินยังไร้เสถียรภาพ ส่งผลให้เงิน YEN อ่อนค่าทันที 2.5% ไปที่ 147.9 เหรียญฯ / เยน อย่างไรก็ตาม ประเด็น UNWIND YEN CARRY ยัง ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และอาจจะยังไม่จบ เนื่องจากการปรับลดดอกเบี้ย ของ FED จะทำให้ GAP ดอกเบี้ยสหรัฐกับญี่ปุ่นมีโอกาสแคบลงยังมีอย
2. ยอดส่งออกและนำเข้าจีน ก.ค. 67 ยังเห็นภาพขยายตัว สะท้อน DEMAND ยังดูไม่แผ่วลง โดยการส่งออก +7.0%YOY ส่วนการนำเข้าพลิกกลับมา เติบโต +7.2%YOY และด้วยความที่จีนเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญอันดับ 1 ของ ไทย ทำให้คาดหวังการฟื้นตัวของยอดนำเข้าจีน จะสร้างแรงส่งให้ภาคการ ส่งออกไทยดีขึ้นในเดือนนี้
สำหรับราคาน้ำมันดิบโลกวานนี้ มีสัญญาณการดีดตัวกลับอีกครั้ง โดยราคานำมัน ดิบ BRENT พุ่งทะลุ 78 เหรียญฯ/บาเรล จากปัจจัยดังนี้
• สต็อกน้ำมันลดลงมากกว่าคาด สะท้อน DEMAND ที่ไม่ได้ชะลอตัวลง แรงๆ ทำให้ความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐ RECESSION ดูเบาลง
• ความตึงเครียดตะวันออกกลาง เพิ่มความกังวลว่า SUPPLY จะลดลง หลังฮิซบอลเลาะห์อาจดึงเลบานอนเข้าสู่สงคราม บวกกับผู้เชี่ยวชาญระบุว่า นายยาห์ยา ซินวาห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองคนใหม่ของกลุ่มฮามาส เป็นบุคคลที่มี หัวรุนแรงมากกว่า
สรุป ความกังวล UNWIND YEN CARRY TRADE ผ่อนคลายลงชั่วคราว บวกกับ ยอดส่งออกและนำเข้าจีน ก.ค. 67 ยังเห็นภาพขยายตัว หนุนให้ตลาดหุ้นในภูมิภาค เอเชียขยับขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบมีสัญณาณดีดตัวขึ้น โดยราคาเป้าหมาย น้ำมันดิบ BRENT บนเส้น EMA 10 วัน จ่อทดสอบที่บริเวณ 79 เหรียญฯ/บาเรล
ปัจจัยในประเทศมีอะไรที่น่าติดตาม และควรทราบบ้าง ?
แม้วานนี้ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉัณฑ์9:0 ยุบพรรคก้าวไกล และและตัดสิทธ์ กรรมการบริหารพรรค ในการสมัครรับเลือกตั้ง (ดำรงตำแหน่งช่วง 25 มี.ค. 64 -31 ม.ค. 67 จำนวน 11 คน) เป็นระยะเวลา 10 ปีซึ่งในกลุ่มนี้ประกอบด้วย สส.บัญชีรายชื่อ 5 คน จึงทำให้คะแนนเสียงของพรรคลดลงจาก 148 เสียง เหลือ 143 เสียง ซึ่งในกลุ่ม ดังกล่าวสามารถย้ายพรรคได้ภายใน 60 วัน อย่างไรก็ตามปัจจัยลบดังกล่าวไม่ได้ สร้างแรงกดดันต่อ SET INDEX โดย MOVEMENT ตลาดฯ ระหว่างการอ่านคำ วินิจฉัย SET INDEX ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวผันผวนอย่างมีนัยสำคัญมากนัก(แกว่ง +- 4 จุด) ดังรูปด้านขวา อีกทั้งวานนี้ SET INDEX ยังปิดบวก +16 จุด ซึ่งได้แรงหนุนจาก FLOW ต่างชาติที่ซื้อสุทธิ 1.6 พันล้านบาท
ขณะที่สัปดาห์หน้ามีอีก 1 คดีที่นักลงทุนให้ความสนใจไม่แพ้กัน นั้นคือ คดีถอดถอน นายกฯเศรษฐา ในวันที่ 14 ส.ค.67 เวลา 15.00 น.ซึ่งหากศาลนัดฟังคำวินิจฉัยแล้ว นายกฯ ถูกถอดถอน ตลาดหุ้นน่าจะถูกตีความในเชิงลบ เพราะ ครม.ในปัจจุบัน จะ พ้นสภาพไปด้วย และต้องมีการโหวตเลือกนายกใหม่ และอาจนำไปสู่มาตการกระตุ้น เศรษฐกิจต่างๆที่เตรียมไว้ ต้องชะลอออกไปเช่นกัน อาทิ การปรับค่าแรงขั้นต่ำ, พัก หนี้เกษตรกร/SME, LANDBRIDGE ข้ามฝั่ง และ DIGITAL WALLET ซึ่งอาจส่งผล ให้ GDP GROWTH บ้านเรา ชะลอตัวลงในบางภาคส่วน แต่ถ้านายกฯ ไม่ถูกถอด ถอน การดำเนินนโยบายต่างๆ ยังเป็นไปตามกระบวนการตามปกติ และตลาดหุ้น น่าจะตอบสนองในเชิงบวกมากกว่า
ีกทั้งวานนี้มีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปไทยเดือน ก.ค.67 ปรับตัวขึ้น +0.83%YOY สูงกว่าคาดเล็กน้อย และเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ +0.62%YOY ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน +0.52%YOY สูงกว่าคาดเล็กน้อยเช่นกัน และเพิ่มจากงวดก่อน หน้าที่ +0.36%YOY ทั้งนี้ โดยรวมยังต่ำกว่ากรอบเป้าหมายเงินเฟ้อของ ธปท.ที่ตั้งไว้ ที่ 1-3% ซึ่งหากไตรมาส 4 ปีนี้อัตราเงินเฟ้อยังไม่ขยับขึ้น จึงทำให้มีโอกาสที่ กนง. อาจจะเปลี่ยนมุมมองเป็น DOVISH มากขึ้นในอนาคต
สรุป ปัจจัยการเมืองภายในประเทศที่คาดว่าจะเป็นตัวกดดัน SET แต่ความจริงแล้ว ไม่ได้กดดัน SET อย่างมีนัยฯ เสริมกับอัตราเงินเฟ้อไทยยังอยู่ระดับต่ำ ลุ้น กนง. ดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น คาดวันนี้ SET จะแกว่งผันผวนใน กรอบแคบ 1280-1300 จุด
้นเทคฯ สหรัฐมีโอกาสถูกขายลดสัดส่วนพอร์ตกระจายมาใน ประเทศอื่น รวมถึงไทยได้ วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวลงต่อ NASDAQ -1.0% ต่างกับตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลกส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก โดยฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่า มีความเป็นไปได้ หลายส่วนที่จะเห็นการกระจายการลงทุนจากหุ้นเทคฯ มาที่หุ้นอื่นๆ ทั้วโลกในช่วงที่ เหลือของปี ด้วยปัจจัยต่างๆ ดังนี้
1. กลุ่มหุ้นเทคฯ 7 นางฟ้าสหรัฐปรับตัวขึ้นมาเยอะมาก ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา +83% ถึง 2,539% สูงกว่า NASDAQ +83% และผลตอบแทน 10 ปี +456% ถึง 21,615% สูงกว่า NASDAQ +156%จนปัจจุบันมีสัดส่วนสูงถึง 20% ของหุ้นทั่วโลก (อิงข้อมูลจากดัชนี MSCI ACWI)
2. เม็ดเงินที่เคลื่อนย้ายเข้าไปในหุ้นสหรัฐฯ เยอะจนทำให้ล่าสุดหุ้นสหรัฐฯ มี สัดส่วนสูงเกือบ 65% ของตลาดหุ้นทั่วโลก (อิงจากดัชน MSCI ACWI) จึง น่าจะเห็นการลดสัดส่วนหุ้นสหรัฐในพอร์ตลงบ้าง หลังจากขึ้นมาแรง, P/E สูง, มีความกังวลเรื่อง RECESSION, และกังวลการเคลื่อนย้ายเม็ดเงินจากการ UNWIND YEN CARRY TRADE
3. การเคลื่อนย้ายเม็ดเงินจากการ UNWIND YEN CARRY TRADE อาจจะยัง ไม่จบ แม้ปัจจุบันค่าเงินเยนจะย่อตัวลงมาอยู่บริเวณ 145 USDJPY แต่ตอน FED เร่งขึ้นดอกเบี้ยมา ค่าเงินญี่ปุ่นอยู่บริเวณ 130 USDJPY ดังนั้นหาก FED เร่งลดดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีอาจเห็นการ UNWIND YEN CARRY TRADE เพิ่มขึ้นกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า และค่าเงินเยน รวมถึงบาทมี โอกาสแข็งค่าขึ้นได
จากทั้ง 3 ปัจจัย หุ้นเทคฯ ขนาดใหญ่สหรัฐฯ ขึ้นมาเยอะมาก P/E เริ่มสูง มีโอกาสถูก ขายลดสัดส่วนพอร์ตลง เพื่อลดความเสี่ยง เรื่อง RECESSION, และกังวลการ เคลื่อนย้ายเม็ดเงินจากการ UNWIND YEN CARRY TRADE และอาจจะกระจายการ ลงทุนมาในประเทศอื่น รวมถึงไทยได้ เพราะมีโอกาสได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน เพิ่มเติม ดังนั้นฝ่ายวิจัยฯ ทำการคัดกรองหา 20 หุ้นไทยที่ต่างชาติเริ่มเข้ามาสะสมผ่าน NVDR ในช่วง 2H67 และบริษัทยังเข้าร่วมงาน THAILAND FOCUS อาจจะจูงใจให้ต่างชาติซื้อ เพิ่มเติมได้
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities