💎 เปิดเผยหุ้นราคาถูกที่ซ่อนอยู่ในตลาดเริ่มต้นเลย

TESG ไม่มาตามนัด ... กระทบ SENTIMENT

เผยแพร่ 10/07/2567 10:00

มติที่ประชุม ครม. วานนี้มีประเด็นสำคัญในเรื่องของการเดินหน้า DITIGAL WALLET โดยมีการเห็นขอบงบกลางปี 2567 มูลค่า 1.22 แสน ล้านบาท พร้อมกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนขึ้น โดยวันนี้จะมีการประชุม เพื่อสรุปรายการสินค้าที่ไม่สามารถร่วมโครงการได้ (NEGATIVE LIST) ก่อนที่จะนำเข้าสู่คณะกรรมการชุดใหญ่ในวันที่ 15 ก.ค.67 ตามด้วยการ แถลงรายละเอียดของโครงการโดยนายกฯ วันที่ 24 ก.ค.67 อย่างไรก็ตาม รายการที่ยังไม่มาตามนัดซึ่งนักลงทุนรอคอยได้แก่ กองทุนประหยัดภาษี TESG เงื่อนไขใหม่ ซึ่งในส่วนนี้อาจทำให้ SENTIMENT ตลาดฯ เสียไป ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นประเด็นคือทิศทาง NPL ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำ ให้การคัดสรรหุ้น BANK ต้องพิถีพิถันมากขึ้น โดยที่เราเห็นว่ามีเกราะ ป้องกันผลกระทบจาก NPL ที่ดีได้แก่ KBANK (BK:KBANK), BBLและTTB ผลจากการที่ยังไม่เห็นกรอบเวลาที่ชัดเจนของ TESG VERSION ใหม่ อาจสร้าง SENTIMENT เชิงลบต่อ SET INDEX วันนี้คาดกรอบ 1312 – 1326 จุด หุ้น TOP PICK เลือก ADVANC, CPALLและ CPN

หลากหลายเหตุผล เอื้อเม็ดเงินไหลเข้าเอเชีย FUND FLOW ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีแนวโน้มเอนเอียงมาที่ประเทศกำลัง พัฒนามากขึ้น หนุนผลตอบแทนตลาดหุ้นขยับขึ้น ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น +3.8%, เกาหลี ใต้และฟิลิปปินส์+3.1% ส่วนบ้านเรา +2.4% ซึ่งสวนทางกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว

สำหรับแรงหนุนที่เอื้อให้เม็ดเงินไหลเข้าเอเซียมากขึ้น มองว่ามาจากปัจจัยภายนอก 3 ส่วนหลัก ดังนี้

• ความคาดหวัง FED ลดดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในเดือน ธ.ค. มีน้ำหนักมากขึ้น โดย ผลการสำราจของ FED WATCH TOOL ล่าสุด คาดความน่าจะเป็น 49% (ช่วงต้นเดือน ก.ค.67 อยู่ที่ 40%) หลังวานนี้ (9 ก.ค. 67) ประธาน FED แถลง นโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ รอบครึ่งปีต่อสภาบน โดยมองว่า เงินเฟ้อไม่ใช่ความเสี่ยงประการเดียวที่ FED พิจารณา แต่การตรึงดอกเบี้ยไว้ ในระดับสูงและนานเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่ง อยู่ในโทนที่มีความ DOVISH มากขึ้น

• P/E ของ MSCI EMERGING MARKET ล่าสุด 16 เท่า ต่ำกว่า MSCI WORLD 22.5 เท่าซึ่งในอดีต ช่วงที่FED ใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย จะทำ ให้MSCI EM ค่อนข้ามากกว่า OUTPERFORM มากกว่า MSCI WORLD

• ความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรป ที่เกิดสุญญากาศในฝรั่งเศส แม้จะผ่าน พ้นการเลือกตั้งรอบสองในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เนื่องจากผู้นำจากกลุ่มฝ่าย ซ้ายที่ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดในการเลือกตั้ง และกลุ่มสายกลางที่ได้ คะแนนเสียงตามมาเป็นอันดับสองต่างก็พยายามที่จะเป็นกลุ่มแรกที่จะจัดตั้ง รัฐบาลขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยหนุนให้เม็ดเงินหาหลุมหลบภัยมากขึ้น เฉพาะอย่าง ยิ่งตลาดการเงินในแถบเอเชีย

สรุป เม็ดเงินมีแนวโน้มเอนเอียงมาที่ประเทศกำลังพัฒนามากขึ้น จากแรงหนุนปัจจัย ภายนอก ตั้งแต่ความคาดหวัง FED ลดดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในเดือน ธ.ค. มีน้ำหนักมาก ขึ้น บวกกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรปจะช่วยหนุนให้เม็ดเงินหาหลุมหลบภัย มากขึ้น ขณะที่ P/E ของ MSCI EMERGING MARKET ที่ยังต่ำกว่า MSCI WORLD

ภาพเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัว(G,C) หุ้นกลุ่มไหนได้ประโยชน์บ้าง การใช้จ่ายภาครัฐ (G) ผ่านการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 วงเงิน 3.60 ล้านล้าน บาท เฉพาะอย่างยิ่งด้านการลงทุน หลังการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 มีความ ล่าช้าไปกว่า 7 เดือน และหลังจากงบปี 2567 อนุมัติเรียบร้อย ก็ทำให้เราเห็นการเร่ง เบิกจ่ายที่มากขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งการเบิกจ่ายที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะมีการอนุมัติเบิกจ่าย อยู่ที่ประมาณ 14.6% ของงบทั้งหมด แต่ข้อมูลล่าสุด ช่วงต้นเดือน ก.ค.67 พบว่ามี การเบิกจ่ายไปแล้ว ราว 37.8% ซึ่งค่อยๆ ขยับขึ้นใกล้สัดส่วนของปี 2566ซึ่งน่าจะเห็น การเร่งเบิกจ่ายที่เร่งตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปีถือเป็น SENTIMENT เชิงบวกต่อหุ้น กลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง อาทิ SCC, SCCC TASCO, STEC, CK เป็นต้น

ขณะที่วานนี้ ครม. เคาะงบโครงการ DIGITAL WALLET 1.22 แสนล้านบาท คาดเข้า สภาฯ 17 ก.ค.67 ซึ่งแหล่งที่มาของเงินทุน คือ 1) ภาษีและรายได้อื่น 10,000 ล้านบาท และ 2) เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 112,000 ล้านบาท โดย TIMELINE ของกระบวนการถัดไปมีรายละเอียด ดังนี้

➢ 10 ก.ค. 67 การประชุมบอร์ดชุดเล็ก เพื่อสรุปรายละเอียดในโครงการ DIGITAL WALLET รวมทั้งในเรื่องการทบทวนรายการสินค้าที่ไม่สามารถ เข้าร่วมโครงการได้ (NEGATIVE LIST)

➢ 15 ก.ค. 67 นำรายละเอียดโครงการ DIGITAL WALLET เข้าสู่การประชุม บอร์ดชุดใหญ่

➢ 24 ก.ค. 67 นายกฯ แถลงรายละเอียดทั้งหมดของโครงการ DIGITAL WALLET

➢ 30 ก.ค. 67 คณะกรรมการนำเสนอโครงการ DIGITAL WALLET ให้ที่ประชุม ครม. รับทราบรายละเอียดโครงการ

ือเป็น SENTIMENT เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มอาหาร-ค้าปลีก/ค้าส่ง อาทิ CPALL (BK:CPALL), CBG, ICHI, OSP, TFG, BTG,CPAXT, BJC เป็นต้น

ซึ่งหุ้นทั้ง2 กลุ่มที่ได้ประโยชน์ข้างต้น ยังมีปัจจัยอื่นบวกหนุน นั้นก็คือ กำไรงวด 2Q67 ที่ BLOOMBERG CONSENSUS คาดว่าจะเติบโตทั้ง QOQ และ YOY โดย CONS +446%QOQ/+13%YOY, FOOD +75%QOQ/+416%YOY, COMM +1%QOQ/+28%YOY(อ้างอิงจากหุ้นเพียง 99 บริษัทที่มีข้อมูลเท่านั้น) ถือเป็น โอกาสสะสมเพื่อคาดหวังผลกำไรระยะสั้น-กลางได้

สรุป ความคืบหน้าของการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนของภาครัฐฯ และโครงการ DIGITAL WALLET ทำให้ภาพเศรษฐกิจไทยมีโอกาสฟื้นตัวเด่นชัดเจนดังที่ตลาดหวังไว้ โดยหุ้น กลุ่มที่คาดได้ประโยชน์ คือ หุ้นกลุ่ม CONS FOOD COMM ซึ่งกำไรงวด 2Q67 BLOOMBERG CONSENSUS คาดว่าจะเติบโตทั้ง QOQ และ YOY แนะนำทยอย สะสมหุ้นในกลุ่มดังกล่าว

วัฎจักร NPL ขาขึ้น และการบริหารจัดการของกลุ่มธนาคาร ภายใต้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในระดับต่ำ ประกอบกับปัจจัยเชิงโครงสร้างของ เศรษฐกิจไทย ส่งผลให้การฟื้นตัวของรายได้ลูกหนี้เป็นไปอย่างไม่เท่าเทียมกัน โดยเฉพาะกลุ่มรายย่อย อย่าง เช่าซื้อรถยนต์, บัตรเครดิต&สินเชื่อบุคคล รวมถึง SME ที่อ่อนแอมาตั้งแต่ก่อนเกิด COVID-19และรายใหญ่ในบางกลุ่มอุตสาหกรรม ภาพดังกล่าวทำให้วัฎจักร NPL ไทย แนวโน้มยังเป็นขาขึ้น สะท้อนผ่านสัดส่วน NPL/LOAN กลุ่มฯ (8ธนาคาร) ณ สิ้นงวด 1Q67 อยู่ที่ 3.6% จาก 3.5% ณ สิ้นงวด 4Q66 (1Q66 ที่ 3.6%) แม้ต่ำกว่าสิ้นปี 2562 ที่ 3.7% แต่มาจากฐานสินเชื่อที่ขยับ ขึ้นมาจากสิ้นปี 2562 (BAY และ BBL มีการควบรวมกิจการในต่างประเทศในช่วง 4 ปี ที่ผ่านมา) ประกอบกับการบริหารจัดการเชิงรุก ผ่านการ WRITE-OFF และขาย NPL เป็นอีกปัจจัยช่วยลดระดับ NPL ในงบดุลของแต่ละธนาคาร โดยรวม ธ.พ. จึงดำเนินนโยบายสินเชื่ออย่างระมัดระวัง เพื่อลดความเสี่ยงจาก NPL ระยะข้างหน้า ผ่านการลดขนาดงบดุล ดังจะเห็นได้จากสินเชื่อสุทธิ ณ สิ้น พ.ค. 67 ติด ลบ 0.4% จากสิ้นปี 2566 หลักๆ มาจาก BAY (-2.1% YTD), KKP (-1.8% YTD แต่ ช่วงก่อนหน้าขยายตัวเชิงรุกกว่ากลุ่มฯ), TTB (-1.6% YTD) และ KBANK (-1.4% YTD) ในขณะที่ ธ.พ. ที่เหลือขยายตัวในระดับไม่เกิน 1% YTD ทั้งนี้ กลุ่มฯ จะเริ่มรายงานงบ 2Q67 ด้วย TISCO วันที่ 12 ก.ค. 67 มองว่าตลาดให้ ความสนใจกับประเด็นคุณภาพสินทรัพย์เป็นหลัก โดยฝ่ายวิจัยคาดกำไรกลุ่มฯ (8ธนาคาร) งวด 2Q67 ที่ 6 หมื่นล้านบาท ลดลง 2% QOQ (ทรงตัว YOY) เพราะ NII ชะลอตัวตามสินเชื่อ, การปรับลดอัตราดอกเบี้ยช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางของ ธ.พ. ใหญ่ และการ REPRICING เงินฝากประจำ ขณะที่ CREDIT COST คาดไม่ เปลี่ยนแปลงจากงวดก่อน และทิศทาง NPL/ LOAN กลุ่มฯ เพิ่มมาที่ 3.7%

สำหรับการลงทุนหุ้นในกลุ่มฯ VALUATION กลุ่มฯ ซื้อขายเฉลี่ย 0.8 เท่า ถูกลดทอน จากมูลค่าทางบัญชี ตามทิศทาง ROE ต่ำลง และปัจจัยด้าน NPL บางส่วน เลือก ธ.พ. ที่มีการบริหารจัดการ NPL เชิงรุก มาก่อนหน้า อย่าง KBANK (OUTPERFORM : FV@B148) คาด CREDIT COST ปี 2567 ยังอยู่ในกรอบเป้าหมาย KBANK (1Q67 ที่ 1.89% VS เป้าหมายทั้งปีที่ 1.75% - 1.95% และสมมติฐานฝ่ายวิจัย 2%) ในเชิง PBV ซื้อขาย 0.56 เท่า และให้ DIV YIELD 5.1% ต่อปี ตามด้วย BBL (OUTPERFORM : FV@B175) ราคาหุ้นซื้อขายบน PBV 0.46 เท่า ต่ำกว่าช่วงเกิด COVID ที่ 0.5 เท่า ทั้งที่ปัจจุบันทิศทาง ROE สูงกว่า ประกอบกับ COVERAGE RATIO ที่ 292% (ค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ ที่ 179%) ประเมินประคอง CREDIT COST ไม่ให้ กระตุกตัวมากเกินไป และสุดท้าย TTB (OUTPERFORM : FV@B1.98) จากการ ชะลอการปล่อยสินเชื่อช่วงที่ผ่านมา และมี TAX SHIELD ช่วยลด DOWNSIDE ต่อ ประมาณการ เมื่อเทียบกับกลุ่มฯ ส่วน ธ.พ. ที่เหลือเรียงตามความชอบดังนี้ KTB (NEUTRAL : FV@B19) > TISCO (NEUTRAL : FV@B106) > SCB (NEUTRAL : FV@B111) > KKP (UNDERPERFORM FV@B49)

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย