💎 ดูบริษัทต่าง ๆ ที่มีสุขภาพทางการเงินที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบันเริ่มต้นเลย

ยังอยู่ในกรอบ 1300 +/-10 จุด

เผยแพร่ 05/07/2567 09:24
SETI
-

ประเด็นที่อยู่ในความสนใจวันนี้น่าจะเป็นมุมมองเศรษฐกิจของ ธปท. ซึ่ง ยืนยันความเห็นเดิมว่า โครงสร้างเศรษฐกิจไทยมีข้อจำกัดในการเติบโต โดยศักยภาพการเติบโตของ GDP บนโครงสร้างปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 3% การอัดฉีดมาตรการ และ เม็ดเงิน เข้าสู่ระบบไม่สามารถทำให้เรา เติบโตได้เกิน 3% ในระยะยาว ส่วนมุมมองเรื่องดอกเบี้ยนโยบายยังคงเห็น ว่าที่รัดบ 2.5% มีความสอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน สำหรับสถานการณ์ด้านเงินเฟ้อวันนี้จะมีการประกาศตัวเลขของเดือน มิ.ย.67 ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 1.1% YOY เราประเมินว่า SET INDEX ยังอยู่ ในภาวะที่ขาดแรงขับเคลื่อนใหม่ๆ ทั้งในส่วนของปัจจัยพื้นฐาน และ เม็ดเงิน ลงทุน โดยมูลค่าการซื้อขายในปัจจุบันถื่อว่าอยู่ในระดับที่เบาบางมาก ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศยังขายสุทธิ นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิอีกครั้ง ซึ่งภายใต้สภาวะที่มูลค่าการ ซื้อขายเบาบาง ทำให้การปรับตัวขึ้นของ SET INDEX ยังยาก วันนี้คาด กรอบ 1295 –1310 จุด TOP PICK เลือก BDMS, CPN และ KBANK (BK:KBANK)

หาก NONFARM ออกมาแย่ จะกดดันดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลงเร็วขึ้น หลังตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐส่งสัญญาณชะลอตัว (รายละเอียดเพิ่มเติม ในบทวิเคราะห์ MARKET TALK ฉบับ 4 ก.ค.67) ส่งผลให้เพิ่มความความหวังการ ปรับลดดอกเบี้ยสหรัฐฯ ครั้งแรกในเดือน ก.ย. 67 โดยผลการสำรวจล่าสุดของ FED WATCH TOOL ให้น้ำหนักมากขึ้นเป็น 66.5% (1 สัปดาห์ก่อนหน้า59%) นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณจาก BOND YIELD 10Y สหรัฐฯ ย่อตัวลงต่อเนื่องสู่ระดับ 4.3% ซึ่งคืนนี้ติดตามตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯอย่าง NONFARM-PAYROLL ที่ตลาด คาดว่าอยู่ระดับ 1.9 แสนตำแหน่ง ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 2.7 แสนตำแหน่ง ซึ่งหาก ผลลัพธ์ออกมาตามคาดจริง ยิ่งเป็นความหวังให้ดอกเบี้ยสหรัฐฯเข้าสู่ขาลงอย่าง ชัดเจนขึ้นตามลำดับ ประเด็นดังกล่าวจึงทำให้เม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นได้ไม่ยาก และ กระเซ็นเข้าสู่ตลาดน้ำมันดิบบ้าง ที่มีแรงเสริมจากสต็อกน้ำมันสหรัฐลดลงมากกว่า คาด จากแรงกระตุ้นในช่วงฤดูกาลขับขี่(DEMAND เพิ่มขึ้น) ซึ่งฝ่ายวิจัยฯคาดราคา น้ำมันดิบ BRENT จะทรงตัวระดับสูง 85-92 เหรียญฯ มองเป็น SETIMENT เชิงบวก ต่อหุ้นกลุ่มน้ำมันและโรงกลั่น อาทิ PTTEP PTTGC TOP BCP เป็นต้น

สรุป ลุ้นตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯคืนนี้อย่าง NONFARM-PAYROLL แย่ตามคาด กดดันดอกเบี้ยสหรัฐฯเข้าสู่ขาลงเร็วขึ้น หนุนช่วงสั้นๆ เม็ดเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง และถือเป็นอีกหนึ่งแรงหนุนให้ราคาน้ำมันขยับขึ้น มองเป็น SETIMENT เชิงบวกต่อหุ้น กลุ่มน้ำมันและโรงกลั่น อาทิ PTTEP PTTGC TOP BCP เป็นต้น

้ว่า ธปท. มองเศรษฐกิจไทยมีเหนื่อย หากยังไม่ปรับโครงสร้าง วานนี้ในงาน “MEET THE PRESS ผู้ว่าการ พบสื่อมวลชน” ผู้ว่า ธปท. เผยว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงที่ผ่านมา ฟื้นตัวได้ค่อนข้างช้าเมื่อเปรียบเทียบกับเศรษฐกิจโลก แต่ในภาพรวม GDP GROWTH ช่วงปี 2566-2571 ยังคงขยายตัวและทยอยกลับเข้า สู่ระดับศักยภาพราว 3% เนื่องจากเศรษฐกิจบ้านเราหลักๆ ยังขับเคลื่อนด้วยธุรกิจ ดังเดิม (OLD ECONOMY) ขณะที่ความคาดหวังที่จะเห็น GDP GROWTH เติบโต 4-5% เหมือนในอดีต จำเป็น จะต้องเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ทั้งเพิ่มการลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ แทน การอัดมาตรการกระตุ้นระยะสั้น

นอกจากนี้ ธปท. ยังคงแสดงจุดยืนเดิมในเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันที่ 2.5% เป็นระดับที่เหมาะสมกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และเสถียรภาพการเงินของบ้านเรา อีกทั้งเงินเฟ้อไทยยังค่อยๆ ทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าสู่กรอบเป้าหมาย 1-3% โดยใน วันนี้ เวลา 13.30 น. รอติดตามตัวเลข CPI เดือน มิ.ย. 67 CONSENSUS คาด +1.1%YOY ซึ่งภาวะข้างต้นอาจจะยังไม่ต้องเป็นต้องลดดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ธปท. ไม่ได้ปิดประตูการปรับลดดอกเบี้ย หาก OUTLOOK มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมี นัยสำคัญ

สรุป ธปท. ยังคงมุมมองบวกกับเศรษฐกิจไทยว่ามีแนวโน้มขยายตัวเข้าสู่ระดับ ศักยภาพ 3% สอดรับกับดอกเบี้ยปัจจุบันที่ 2.5% ขณะที่เงินกำลังเฟ้อค่อยๆ ทยอย ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าสู่กรอบเป้าหมาย 1-3% ซึ่งภาวะข้างต้นอาจไม่เห็นการปรับลด ดอกเบี้ยบ้านเราในปีนี้

MARGIN CALL ความผันผวนที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ตลาดหุ้นไทยถูกกดดันมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2022 ถึงปัจจุบัน โดยมี FUND FLOW ไหลออกไปถึง 3 แสนล้านบาท กดดัน SET INDEX ปรับตัวลงมาเร็วถึง -22% พอหุ้น ตกลงมานานๆ ต่อเนื่อง ปัญหาที่ตามมา คือ การเกิด MARGIN CALL หรือการเรียก เงินที่วางหลักประกันคืน โดย ณ สิ้นปี 2022 มีเม็ดเงินที่วางหลักประกันในตลาดหุ้นไว้ 3.78 แสนล้านบาท แต่เดือน พ.ค. 2024 เหลือเม็ดเงินที่วางหลักประกันคงค้าง 2.69 แสนล้านบาท หรือ มีสัดส่วนราว 1.68% ของมูลค่าตลาด

และหากลงรายละเอียดเป็นรายหุ้นจะเห็นได้ว่า มีหลายหุ้นที่ตกหนัก และถูกกดดันจน ระดับ MARGIN คงค้างหายไปเยอะมาก ในช่วงปลายปี 2022 – ปลายเดือน พ.ค. 2024 อาทิ PRIME, MORE, JKN, CV, CIG, TCC, STARK, META

ขณะที่ปัจจุบันยังมีหุ้นที่ระดับ MARGIN คงค้าง ณ พ.ค. 24 ยังอยู่ในระดับสูง แต่ราคา หุ้นในเดือน มิ.ย. – 4 ก.ค. 24 ถูกกดลงมามาก อย่าง YGG, NRF, III, APCS, ECL, SNNP, PLUS, TKC, NEX, DOD, FN, TCMC, TWZ, NCL, EA ดังภาพทาง ด้านล่าง แสดงว่าหุ้นดังกล่าวมีความเสี่ยง หรืออาจอยู่ในสถานะการณ์เผชิญปัญญา เรื่อง MAGIN CALL ดังนั้นนักลงทุนที่ตัดสินใจลงทุนจะต้องใช้ความระมัดระวัง และ ติดตามข่าวสารของบริษัทอย่างใกล้ชิด รวมถึงรอดูตัวเลข MARGIN CALL จากทาง ตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่จะอัพเดทใหม่ ถ้าหุ้นดังกล่าวมีสัดส่วน MARGIN คงค้างเหลือ น้อยมากๆ ไม่ถึง 1% ความผันผวนในหุ้นดังกล่าวก็มีโอกาสลดลง หรือมีโอกาสรี บาวน์ได้บ้าง

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย