🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

UPTRICK มีผล SHORT SELL ลดลงชัดเจน

เผยแพร่ 02/07/2567 10:17
SETI
-

การบังคับใช้UPTRICK RULE เพื่อควบคุมเรื่อง SHORT SELLวานนี้วัน แรก พบว่าส่งผลทำให้มูลค่าธุรกรรม SHORT SELL ปรับลดลงจาก ค่าเฉลี่ย 5.5 พันล้านบาท/วัน ลงมาอยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท หรือลดลง 79% ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมาย ประเมินว่าการลดลงของธุรกรรม SHORT SELL น่าจะมีส่วนทำให้แรงกดดันต่อราคาหุ้นลดระดับลง แต่ใน ขณะเดียวกันที่ทำให้มูลค่าการซื้อขายของตลาดฯ ลดลงไปด้วย ซึ่งจากนี้ ต้องหวังพึ่งการกลับมาของนักลงทุนในประเทศ เฉพาะอย่างยิ่งผ่านกลไก ของ TESG เกณฑ์ใหม่ และ วายุภักษ์ ที่จะเริ่มเห็นใน 3Q67 สำหรับปัจจัย แวดล้อมทางพื้นฐานยังให้ความสำคัญกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย โดยยัง เชื่อว่า FED น่าจะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย.67 ขณะที่บ้านเราคงไว้ที่ เดิม ภาวะดังกล่าวน่าจะช่วยลดการไหลออกของเงินได้ระดับหนึ่ง

แรงกดดันต่อราคาหุ้นน่าจะลดระดับลง หลัง UPTRICK RULE มีผล บังคับใช้ แต่อย่างไรก็ตามแรงผลักดันราคาหุ้นก็ยังเบา วันนี้คาดกรอบ 1294 –1306 จุด หุ้น TOP PICK เลือก ADVANC, BEM และ PTTEP

FED เริ่มลดดอกเบี้ยเมื่อไหร่ หวังเม็ดเงินชะลอไหลออกจากไทย ได้บ้าง สัญญาญเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ทยอยปรับตัวลดลงเข้าสู่กรอบเป้าหมาย 2% ถือเป็น มุมมองเชิงบวกหนุนให้ FED พิจารณาปรับลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 1-2 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ BOND YIELD 10Y จะมีความผันผวนในช่วงสั้น แต่ในระยะถัดไปคาดว่าจะมี แนวโน้มย่อตัวลงต่อเนื่อง หาก FED เริ่มเดินหน้านโยบายการเงินผ่อนคลาย ซึ่งผลที่ ตามมาน่าจะทำให้ผลต่าง BOND YIELD 10Y ของสรัฐฯ – ไทย มี GAP ที่แคบลง เรื่อยๆ เข้าสู่ค่าเฉลี่ย 1.03% เชื่อว่าจะส่งผลให้ FUND FLOW ชะลอการไหลออก และ เงินบาทแข็งค่ามากขึ้น

ส่วนในแง่มุมของตลาดหุ้น กรณีที่ BOND YIELD 10Y สหรัฐฯ ทยอยปรับตัวลดลง ต่อเนื่อง ล่าสุดหนุนให้ ผลต่างของ DIVIDEND YIELD ไทย - BOND YIELD 10Y สหรัฐฯ มี GAP แคบลงเหลือ 0.85% และถ้าต่ำกว่า 0.5% น่าจะเห็น FUND FLOW กลับมาไหลเข้าบ้านเราได้บ้าง

สรุป จุดเริ่มต้นของ FED ในการเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ย 1-2 ครั้งในปีนี้ เชื่อว่าจะหนุน ให้BOND YIELD 10Y สหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลง ถือเป็นการช่วงลด GAP กับ BOND YIELD 10Y ไทย รวมถึง DIVIDEND YIELD ไทย ให้ปรับตัวแคบลง เชื่อว่าจะ ส่งผลให้ FUND FLOW ชะลอการไหลออก และเงินบาทแข็งค่ามากขึ้น

FLOW ต่างชาติไหลออก 1.5 ปี 3 แสนล้านบาท แต่เริ่มเห็น สัญญาณที่ดีขึ้นจากมาตรการ ตลท.

ด้วยปัจจัยลบทั้งเรื่องดอกเบี้ยไทยที่อยู่ต่ำกว่าสหรัฐฯ และปัจจัยการเมืองในประเทศที่ มีความไม่แน่นอน กดดันเม็ดเงินต่างชาติในช่วง 1.5 ปี ไหลออกหุ้นไทย 3.1 แสนล้าน บาท และส่งผลให้ SET INDEX ทยอยปรับตัวลงจาก 1570 จุด สู่ระดับ 1300 จุดใน ปัจจุบัน หรือ -17% พร้อมกับ MARKET CAP หายไป 4.3 ล้านล้านบาท

ขณะที่หากพิจารณาในช่วงเวลาเดียวกัน หุ้นหลายตัวปรับตัวลงแรง และกดดัน MARKET CAP ลดลงอย่างมีนัยฯ อาทิ EA พบว่า MARKET CAP หายไป 3.2แสน ล้านบาท (RETURN -89%), AOT (BK:AOT) ขนาด MARKET CAP หายไป 2.46แสนล้านบาท (RETURN -24%), GULF ขนาด MARKET CAP หายไป 1.73 แสนล้านบาท (RETURN -27%), SCC ขนาด MARKET CAP หายไป 1.40 แสนล้านบาท (RETURN -35%) เป็นต้น

แต่อย่างไรก็ตามหลังวานนี้เป็นวันแรกที่มีมาตรการ UPTICK RULE ทุกหลักทรัพย์ และกำหนดเกณฑ์หุ้นที่จะ SHORT SELLING จึงทำให้หุ้นข้างต้น มียอด SHORT คง ค้างลดลงอย่างมีนัยฯ เมื่อเทียบกับยอด SHORT SELL(YTD) ทำให้มีโอกาสสูงที่จะ ลดความผันผวน และเป็นโอกาสทยอยสะสมสำหรับหุ้นพื้นฐานดีในหุ้นกลุ่มนี้ อาทิ AOT GULF SCC CPAXT CPALL (BK:CPALL) CPN เป็นต้น

สรุป FLOW ต่างชาติไหลออก 1.5 ปี รวมมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาท แต่เริ่มเห็น สัญญาณที่ดีขึ้นจากมาตรการ ตลท. จนทำให้หุ้นหลายตัวมียอด SHORT คงค้าง ลดลงอย่างมีนัยฯ จึงเป็นโอกาสทยอยสะสมสำหรับหุ้นพื้นฐานดีในหุ้นกลุ่มนี้ รวมถึง หุ้นลงมาลึกหวังรีบาวด์ อาทิ EA AOT GULF SCC CPAXT IVL CPALL CPN GPSC PTTGC เป็นต้น

UPTICK จุดเริ่มต้น ยึดกระดานตลาดหุ้นไทย คืนจากต่างชาติ ในปี 2023 และ 2024YTD ต่างชาติมีสัดส่วนซื้อขายหุ้นไทยสูงเกินกว่าครึ่งหนึ่งของ มูลค่าซื้อขายรวม ที่ 52.3% และ 54.0% ตามลำดับ และนักลงทุนไทยเหลือสัดส่วน่ถึง ครึ่ง 47.7% และ 46.0% ตามลำดับ อย่างไรก็ตามในมุมมองของฝ่ายวิจัยฯ จุดเริ่มต้นเปลี่ยนเกมส์ อาจเกิดขึ้นในวานนี้ หลังตลาดฯ ประกาศใช้กฏ UPTICK เป็นวันแรก ผลลัพธ์ถือว่าทำงานได้ดี และน่าจะ เป็นจุดเริ่มต้น ค่อยๆ ยึดกระดานตลาดหุ้นไทย คืนจากต่างชาติได้ ด้วยเหตุผลต่างๆ ดังน

▪ ต่างชาติสลับมาซื้อสุทธิเล็กน้อยในตลาดหุ้นไทย 338 ล้านบาท (หลังจากขายสุทธิติดต่อกันยาวนานถึง 27 วันทำการกว่า 5.16 หมื่นล้านบาท)

▪ ต่างชาติสลับมา LONG สุทธิ SET50 FUTURES 1,984 สัญญา (หลังจากขายสุทธิติดต่อกัน 3 วัน)

▪ สัดส่วนการ SHORT SELL เหลือเพียง 3.7% ของมูลค่าซื้อขาย และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในปีนี้ (YTD) ที่ 12.9%

▪ มูลค่าธุรกรรม SHORT SELL ลดลงเหลือ 1.2 พันล้านบาท ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยSHORT SELL ในปีนี้ (YTD) ที่ 5.5 พันล้านบาทต่อวัน หรือลดลงกว่า 79%และเป็น % ที่ลดลงเท่ากับช่วงที่ใช้มาตรการ UPTICK ตอนเกิด COVID-19พอดี

▪ ปริมาณการ SHORT SELL ผ่าน NVDR เหลือเพียง 392 ล้านบาท น้อยกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 1 เดือนกว่าๆ ที่ 3.1 พันล้านบาทต่อวัน หรือลดลงกว่า 87%

ทั้ง 5 ส่วนที่กล่าวมา แสดงให้เห็นถึง MOMENTUM ที่ต่างชาติชะลอการ SHORT SELL ปกติ และ SHORT ผ่าน NVDR รวมถึงขายสุทธิน้อยลง ที่สำคัญคือ เริ่มเห็น สัดส่วนการซื้อขายของนักลงทุนไทยในวันที่ 1 ก.ค. 24 ที่กลับมาเกินครึ่งหนึ่ง หรืออยู่ ที่ 55.3% มาจากนักลงทุนรายย่อยถึง 37.7% และกองทุน 8.7% ซึ่งคาดว่าสัดส่วน การซื้อขายของกองทุนจะค่อยๆเร่งตัวขึ้นหลังมีกองทุน THAIESG เข้ามา น่าจะหนุนให้ สัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 11% - 13% เหมือนช่วงที่มีกองทุน LTF ในปี 2017 – 2020 ได้

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย