สัปดาห์ที่ผ่านมา ปัจจัยการเมืองเข้ามาสร้างแรงกดดัน ท้าให้น ้าหนัก ทางบวกของการ BOTTOM OUT ของเศรษฐกิจ และ ก้าไร บจ.เบาลงไป ชั่วคราว แต่ SET INDEX ก็ยังสามารถยืนเหนือ 1360 จุดได้ถือเป็น สัญญาณบวก สัปดาห์นี ประเมินว่าสถานการณ์ของ SET INDEX น่าจะ ค่อยๆ ดีขึ นเนื่องจากไม่มีปัจจัยลบใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติมขณะที่มีความ คาดหวังเชิงบวกจาก การประชุม ครม.เศรษฐกิจในวันนี โดยน่าจะเห็น แนวทางหรือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา ส้าหรับ INVESTMENT THEME ในช่วงเวลานี ท้าได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก เม็ดเงินลงทุนภาครัฐในกลุ่มรับเหมาฯ – วัสดุก่อสร้าง,กลุ่มที่ได้ประโยชน์ จากเงินบาทที่อ่อนและเศรษฐกิจโลกฟื้นอย่าง ส่งออก รวมถึงกลุ่มที่ได้ ประโยชน์จากการย้ายฐานการลงทุนอย่าง นิคมอุตสาหกรรม
SET INDEX รักษาฐานที่บริเวณ 1360 จุดได้ดี ขณะที่ยังไม่เห็นปัจจัยลบ ใหม่ๆ เข้ามากดดัน คาดว่าสถานการณ์น่จะน่าค่อยๆดีขึ น ประเมินกรอบ 1358 –1372 จุด TOP PICK เลือก CPN, PTTEP และ TIDLOR
TRADE WAR สหรัฐ-จีน มีวี่แววดุเดือดขึ้น
ศุกร์ที่ผ่านมา (24 พ.ค. 67) ส้านักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เผยว่า ปธน. โจ ไบ เดน จะกลับมาเรียกเก็บภาษีสินค้าน้าเข้าจากจีนราว 200 รายการ โดยมาตรการ ยกเว้นภาษีสินค้าเหล่านี จะหมดอายุลง14 มิ.ย. 67 ขณะที่ก่อนหน้านี สหรัฐฯ เพิ่งจะ เพิ่มอัตราภาษีรถยนต์ไฟฟ้าที่น้าเข้าจากจีนเป็น 4 เท่า เป็น 102.5% และเพิ่มภาษี น้าเข้าสินค้าต่าง ๆ เซมิคอนดักเตอร์ แบตเตอรี่ เซลล์แสงอาทิตย์ และแร่ธาตุที่ส้าคัญ ทั งนี ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ที่กีดกันทางการค้ากับจีน ถือเป็นการเพิ่มระดับ รุนแรงของ TRADE WAR อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามภาวะดังกล่าวมองเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อภาคการลงทุนในบ้านเรา โดย คาดหวังว่าจะเห็นเม็ดเงินไหลเข้าไทยมากขึ น เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากสงคราม การค้าสหรัฐฯ –จีน ขณะที่กระทรวงพาณิชย์เผย ต่างชาติลงทุนไทย 4 เดือนแรกปี 67 (ม.ค.-เม.ย.) เงินสะพัดกว่า 5.5 หมื่นล้านบาท และหากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน เพิ่มขึ น 1.6 หมื่นล้านบาท หรือ +42%YOY อีกทั งการขอรับการส่งเสริมการลงทุน ของ BOI ในช่วง 1Q67 มีมูลค่า 2.3 แสนลบ. โดยเพิ่มขึ น +31%YOY และยอดการ ขอรับการส่งเสริมฯ จาก FDI ขยายตัวราว +16%YOY
สรุป ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ที่กีดกันทางการค้ากับจีน ถือเป็นการเพิ่มระดับ รุนแรงของ TRADE WAR อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยฯ เชื่อว่าจะเห็นเม็ด เงินไหลเข้าไทยมากขึ น เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงดังกล่าว มองเป็นบวกต่อ WHA AMATA
ช่วงที่ผ่านมา ตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีขึ นของสหรัฐฯ คือ CPI(ต่้าลง), PMI ภาคการผลิต (สูงขึ น) และจีน INDUSTION PRODUCTION, RETAIL SALES สูงขึ น ท้าให้ความ คาดหวังว่า DEMAND น ้ามันดิบจะทยอยมากขึ นตามล้าดับ ส่งผลให้ราคาน ้ามันดิบ ยืนทรงตัวระดับสูง และวานนี BRENT / WTI ปิดบวก 0.93% และ 1.11% ตามล้าดับ ประเด็นดังกล่าวอาจส่งผลบวกต่อ SET INDEX บ้าง เนื่องจากมีสัดส่วนหุ้นกลุ่ม น ้ามัน-โรงกลั่น สูงถึง 1 ใน 3 ของสัดส่วนทั งหมด อาทิ PTT (BK:PTT), PTTEP, BCP, IRPC, TOP เป็นต้น
ขณะที่ในมุมทิศทางดอกเบี ยของแต่ละประเทศเข้าสู่ขาลง (DOVISH มากขึ น) เริ่มจาก สมาชิกคณะกรรมการธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า ECB อาจปรับลดอัตรา ดอกเบี ย 0.25% ในเดือนมิ.ย.67 เหลือ 4.25% หลังอัตราเงินเฟ้อเดือนล่าสุดอยู่ที่ ระดับ 2.4%YOY ซึ่งเริ่มเข้าสู่กรอบเป้าหมายของ ECB ที่ 2% แล้ว ขณะที่สหรัฐฯ ก็ เห็นสัญญาณว่า ทิศทางดอกเบี ยยังอยู่ในทิศขาลงเช่นกัน สังเกตุได้จาก FED WATCH TOOL ที่ตลาดคาด FED ลดดอกเบี ยครั งแรกในเดือน 9 เหลือ 5.25% ซึ่ง การปรับลดดอกเบี ยของ ECB ที่มาก่อน FED จึงท้าให้ DOLLAR INDEX อาจแข็งค่า ในช่วงนี และกดดันค่าเงินบาทไทยให้อ่อนค่าตามกลไก
ดังนั นในช่วงเวลาดังกล่าวจึงแนะน้ากลุ่มหุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า อาท
กลุ่มส่งออก HANA, SVI, DELTA, KCE, TU, ITC, AAI, CPF, GPFT, STA,
NER, STGT, SAT, SCC
กลุ่มท่องเที่ยว AOT (BK:AOT), AAV, BA, MINT, CENTEL, ERW
กลุ่มโรงพยาบาล BH, BDMS, PR9, BCH
ตลาดหุ้นไทย แรงกดลดลง หวังแรงผลักกลับมาบ้าง
ในเดือน พ.ค.67 SET INDEX ใน 3 สัปดาห์แรกบวกทุกสัปดาห์ แรงหุ้นจากปรับตัว จากตัวเลข GDP1Q67 1.5% ดีกว่าคาด และก้าไรบริษัทจดทะเบียนงวด 1Q67 2.76 แสนล้านบาท (+50%QOQ) ออกมาดีกว่าคาด
แต่สัปดาห์ที่แล้วเกิดปัจจัยทางการเมืองที่ร้อนแรงกดดัน FUND FLOW ไหลออกจาก ตลาดหุ้นไทย -4.89 พันล้านบาท กดดัน SET INDEX ย่อตัวลงมา -1.32% และ กดดัน SET INDEX ในเดือนนี พลิกกลับมาติดลบเล็กน้อย -0.3%(MTD)
โดยนักลงทุนเน้นหลบความผันผวนจากประเด็นทางการเมือง สลับไปลงทุนให้หุ้น GLOBAL PLAY มากขึ น สะท้อนได้จาก กลุ่มหุ้นที่ OUTPERFORM ในเดือนนี คือ PERSON +12.8%, ETRON +8.5%, FOOD +3.3%, PKG +3.0%, AGRI +1.9%, PETRO +0.5%
อย่างไรก็ตามหากประเด็นการเมืองเบาลง SET INDEX ก็มีโอกาสค่อยๆ ฟื้นกลับมา ในระยะถัดไป เริ่มจากระยะสั นเริ่มเห็นราคาน ้ามันฟื้นตัว ดีต่อ SET INDEX ที่สัดส่วน 1 ใน 3 อิงกับหุ้น COMMDOTY และในมุม VALUATION เปรียบเทียบตลาดหุ้นไทยยัง มีความน่าสนใจมากขึ้น คือ มี PE67F 15.3 เท่า ต่้ากว่าตลาดหุ้นโลก 18.4 เท่า และยัง คากหวังการเติบโต EPS GROWTH67F 14.3% สูงกว่าตลาดหุ้นโลก 6.1%
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities