💼 ปกป้องพอร์ตของคุณด้วยฟีเจอร์การคัดเลือกหุ้นโดย AI จาก InvestingPro - ตอนนี้ลดสูงสุดถึง 50% รับส่วนลด

จับตารายงานดัชนี PMI ของประเทศเศรษฐกิจหลัก และรอลุ้น GDP ไตรมาสแรกของไทย

เผยแพร่ 20/05/2567 07:51
  • สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เล่นในตลาดคลายกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดลงบ้าง หลังอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ ในเดือนเมษายน ได้ชะลอลงตามที่ตลาดคาดหวังไว้
  • ควรจับตา รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ อย่าง ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ ของบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก ส่วนในฝั่งไทย ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงาน GDP ไตรมาสแรกของปีนี้ 
  • เงินดอลลาร์มีโอกาสรีบาวด์แข็งค่าขึ้น หากดัชนี PMI ของสหรัฐฯ ออกมา “ดีกว่าคาด” ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ก็อาจได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจญี่ปุ่นออกมาแย่กว่าคาด ลดโอกาส BOJ ขึ้นดอกเบี้ยต่อ ในส่วนของค่าเงินบาท โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินบาทอาจชะลอลงบ้าง โดยเงินบาทยังคงมีปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่าจาก โฟลว์จ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติที่สูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อน นอกจากนี้ เงินบาทอาจอ่อนค่าลง หาก GDP ไตรมาสแรกออกมาแย่กว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มคาดหวังการลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยอีกครั้ง อนึ่ง ควรจับตาทิศทางราคาทองคำ อย่างใกล้ชิด หลังราคาทองคำมีผลกับทิศทางเงินบาทพอสมควรในช่วงระยะสั้น
  • มองกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้
    35.85-36.50
    บาท/ดอลลาร์
  • มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก

    • ฝั่งสหรัฐฯไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ โดย S&P Global (Manufacturing & Services PMIs) ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะช่วยสะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้ โดยหากดัชนี PMI ออกมาดีกว่าคาด และดัชนีในส่วนราคาปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนความเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะชะลอตัวลงช้า ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดกลับมากังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดมากขึ้น หนุนให้ทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด หลังล่าสุด อัตราเงินเฟ้อ CPI ได้ชะลอลง ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อื่นๆ ก็สะท้อนภาพการชะลอลงของกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี จากการประเมินถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดในช่วงที่ผ่านมา เรามองว่า สัปดาห์นี้ โทนการสื่อสารโดยรวม อาจยังคงสงวนท่าทีต่อการสนับสนุนการลดดอกเบี้ย และบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ก็อาจย้ำจุดยืนไม่รีบลดดอกเบี้ย จนกว่าจะมั่นใจแนวโน้มการชะลอตัวลงของเงินเฟ้อ หรือ เศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับมาชะลอตัวลงหนัก ซึ่งอาจสะท้อนจากยอดการจ้างงานที่ลดลงต่อเนื่อง จนทำให้อัตราการว่างงานพุ่งสูงขึ้น 
    • ฝั่งยุโรปผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของอังกฤษ ทั้งอัตราเงินเฟ้อ CPI ดัชนีราคาผู้ผลิต PPI และดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) เพื่อประเมินจังหวะที่ BOE อาจเริ่มทยอยลดดอกเบี้ยนโยบายได้ในปีนี้ เช่นเดียวกันกับในฝั่งยูโรโซน ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตา รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินในระยะข้างหน้าของ ECB
    • ฝั่งเอเชียผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่น ทั้งรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ รวมถึงอัตราเงินเฟ้อ CPI เพื่อประเมินโอกาสที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยผู้เล่นในตลาดยังคงคาดหวังว่า BOJ อาจมีโอกาสทยอยขึ้นดอกเบี้ยต่อได้บ้างในปีนี้ 1-2 ครั้ง ในส่วนนโยบายการเงิน ตลาดคาดว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) และธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOJ) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับปัจจุบัน 6.25%, 5.50% และ 3.50% ตามลำดับ โดยเรามองว่า บรรดาธนาคารกลางส่วนใหญ่ในฝั่งเอเชีย ต่างก็รอจังหวะที่จะทยอยลดดอกเบี้ยลง หลังอัตราเงินเฟ้อในหลายประเทศได้ชะลอลง เข้าสู่เป้าหมายของธนาคารกลาง ทว่า ธนาคารกลางส่วนใหญ่อาจรอให้เฟดเริ่มทยอยลดดอกเบี้ยได้จริง หรือมีแนวโน้มทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ เพื่อลดความเสี่ยงและแรงกดดันต่อค่าเงินของประเทศนั้นๆ อาทิ ในฝั่ง BI ได้มีการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงก่อนหน้า เพื่อลดแรงกดดันต่อค่าเงินรูเปียะห์ (IDR)
    • ฝั่งไทยผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานอัตราการเติบโตเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวราว +0.6% จากไตรมาสก่อนหน้า หรือ คิดเป็น +0.8% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ตามการขยายตัวต่อเนื่องของการบริโภคภาคเอกชนและการท่องเที่ยว ทว่า การส่งออกและการใช้จ่าย รวมถึงการลงทุนของภาครัฐ อาจเป็นปัจจัยฉุดเศรษฐกิจในไตรมาสแรก ทั้งนี้ หากเศรษฐกิจกลับขยายตัวได้แย่กว่าคาดไปมาก หรือ “หดตัว” อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดกลับมาเชื่อว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยมีโอกาสลดดอกเบี้ยได้ในปีนี้ ส่วนในสัปดาห์นี้ เราประเมินว่า โฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติราว 1.3 หมื่นล้านบาทในสัปดาห์นี้ อาจเป็นปัจจัยที่กดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงได้บ้าง แต่หากนักลงทุนต่างชาติยังคงทยอยกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ไทย ก็พอจะช่วยลดทอนแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินบาท จากโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลได้

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย