May investment outlook
• May: สําหรับภาพตลาดหุ้นไทยในเดือนพฤษภาคม คาดว่าดัชนีน่าจะแกว่งทรงตัวไปก่อน โดยปัจจัยที่อาจพอลุ้นเข้ามาเป็นตัวกระตุ้นได้บ้างก็ คือการประกาศใช่มาตรการ Uptick rule ของตลท. หิ่งถ้าหากเกิดขึ้นได้เร็ว น่าจะเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนขึ้นมาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ปัจจัย จํากัด Upside ในเดือนนี้ยังคงมองไปยังพื้นฐานกําไรของบจ.ขนาดใหญ่ที่ ยังคงอ่อนแอ รวมถึงเงินบาทที่ยังคงอ่อนแอกว่าภูมิภาคด้วยเช่นกัน
• Flow: ทั้งนี้ อาจต้องระวังปัจจัยทางด้าน Fund flow ที่เข้าสู่ช่วง Low season จากการขนย้ายเงินปันผลออกนอกประเทศของนักลงทุน ต่างชาติ ซึ่งอาจส่งผลกดดันต่อค่าเงินบาทและภาพดัชนีโดยรวมได้ สําหรับปัจจัยกดดันค่าเงินบาทอื่นยังได้แก่ การเข้าสู่ช่วง Low season ของ ภาคการท่องเที่ยวไทย ซึ่งจะส่งผลต่อความอ่อนแอของดุลบริการ และ ต้นทุนการนําเข้าของไทยที่สูงขึ้นตามราคาน้ามันดิบ ซึ่งจะส่งผลกดดันต่อ ดุลการค้าได้
• Factors: ในส่วนของปัจจัยต่างประเทศที่น่าติดตามได้แก่
1) ความเสี่ยงรัฐภูมิศาสตร์ระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล มีโอกาสสร้าง Noise รบกวนให้กับตลาดทุนทั่วโลกได้ทุกเมื่อ
2) การออกมาแสดงความเห็นของกรรมการ Fed ท่านต่างๆ หลังจากผ่าน พ้นการประชุม FOMC ในช่วงต้นเดือน
• FOMC recap: ผลการประชุม Fed เมื่อคืนนี้ไม่ได้ออกมา Surprise จากที่ เราคาดแต่อย่างใด โดยใน Statement มีการประกาศการลดความเร็วการ ลดขนาด Balance sheet ลงตามที่เราคาดการณ์ไว้ ซึ่งกระบวนการ ดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้ โดย Fed ตั้งเป้าการลดการถือครอง พันธบัตรสหรัฐฯ (Treasury) เดือนละ 2.5 หมื่นล้านเหรียญฯ จากเดิมที่ ระดับ 6.0 หมื่นล้านเหรียญ ต่อเดือน
• SET: จากแนวโน้มดอกเบี้ย Fed ล่าสุด ที่น่าจะปรับลดลงปีนี้ได้มากสุด เหลือเพียงแค่ 2 ครั้ง ท่าให้เราตัดสินใจปรับสมมติฐานการลดดอกเบี้ยของ กนง.ปีนี้ลงอย่างเป็นทางการจาก 2 ครั้งหรือ 1 ครั้ง ส่งผลให้เรา จําเป็นต้องปรับเปลี่ยนสมมติฐาน Forward PE ของ SET ในกรณีดีสุด/ ฐาน/แย่สุด มาอยู่ที่ 13.8× / 12.8× / 11.9x และทําให้ได้ระดับดัชนี SET ที่เหมาะสมใหม่ในแต่ละกรณีมาอยู่ที่ 1480 / 1370 / 1270 จุดตามลําดับ (ดูรูป)
• Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ คาดการณ์ SET Index เดือนนี้แกว่งตัวในกรอบ 1340-1400 จุด (มีจุดศูนย์กลางที่ 1370 จุด ซึ่งเป็นระดับ Fair play ใหม่ ของเรา) โดยหลังจากที่แนะนําเข้าซื้อหุ้นรอบล่าสุดไปที่บริเวณดัชนี SET 1370 จุด แนะนํานักลงทุนใช้กลยุทธ์ Wait & See ไปก่อน โดยกําหนดกลยุทธ์แนวรับสําหรับการเพิ่มน้ําหนักถัดไปแถวระดับ 1340-1350 จุด
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities