รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

เป็นแรงซื้อใหม่ ไม่ใช่ COVER SHORT นะ 

เผยแพร่ 10/04/2567 09:47

สภาพตลาดวานนี้ ต้องถือว่าดูดีกว่าที่คิดไว้มาก เฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ มูลค่าการซื้อขายที่เดิมคาดว่าจะเบาบาง กลับขึ้นมาสูงถึง 4.84 หมื่นล้านบาท และที่สำคัญพบว่านักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิกว่า 6 พันล้านบาท ซึ่งเราเชื่อว่าเป็น แรงซื้อเข้ามาเพิ่มเติม ไม่ได้เป็นการซื้อ COVER SHORT SELL ทั้งนี้ประเมินจาก ตัวเลข OUTSTANDING SHORT SELL ที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลง, เงินบาทที่กลับมา แข็งค่า ขณะที่หุ้น SET50 OUTPERFORM SET INDEX นอกจากนี้ในส่วนของ FUTURE พบว่ามีการเปิด LONG และ OI เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามยังต้องติดตาม สถานการณ์ว่าแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติจะมีความต่อเนื่องเพียงใด แต่หาก ประเมินจากปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจบ้านเราที่เริ่มเห็นแรงกระตุ้น กำไรบริษัท จดทะเบียนงวด 1Q67 ที่น่าจะฟื้นตัว QOQ และทิศทางดอกเบี้ยนโยบาย ที่อยู่ใน ขาลง โดยอาจปรับลดลงในการประชุมวันนี้ หริออย่างช้า 12 มิ.ย.เป็นไปได้ที่จะ เห็นแรงซื้อที่ต่อเนื่อง

การปรับขึ้นมายืนเหนือ 1400 จุด ถือเป็นสัญญาณบวกที่ดีกว่าที่คาด โดยน่าจะ มีMOMENTUM ต่อเนื่องได้ แต่ยังคงแนวต้านสำคัญไว้ที่ 1405 จุด แนวรับอยู่ที่ 1384 จุด หุ้น TOP PICK เลือก CENTEL, CBG และ JMART

ปัจจัยในประเทศดูดีขึ้น หนุน SET มีแนวโน้มปรับขึ้นต่อได้

วานนี้SET INDEX ปรับตัวขึ้นแรง 25.53 จุด(มากสุดตั้งแต่ต้นปี) ปิดที่ระดับ 1401.11 จุด ซึ่งสาเหตุหนึ่งมาจากนโยบายการเงิน-การคลังที่มีแนวโน้มดูดีขึ้นในอนาคต บวก กับมาตราการของ ตลท.ที่ช่วยเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน จึงทำฝ่ายวิจัยฯคาดว่า SET INDEX จะมีความผันผวนน้อยลง และแข็งแกร่งกว่าตลาดฯหุ้นอื่นๆได้ในระยะถัดไป โดยมีรายละเอียด ดังนี

• นโยบายการเงิน BLOOMBERG CENSENSUS คาดการณ์ผลการประชุม กนง.รอบ เม.ย.67 นี้จากนักเศรษฐศาสตร์ทั้งหมด 24 คน ส่วนใหญ่ให้ ความเห็นว่า กนง.จะคงดอกเบี้ยระดับเดิมที่ 2.50% มีเพียง 7 คนเท่านั้นที่เห็น ต่างว่าควรลดดอกเบี้ยสู่ระดับ 2.25% หรือ คิดเป็นสัดส่วน 30%(เป็นนัก เศรษฐศาสตร์ต่างประเทศทั้งหมด) ประเด็นดังกล่าว ทำให้BOND YIELD ไทย ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา SHIFT ขึ้นยกเส้นเล็กน้อย โดย BY 1 ปี อยู่ที่ 2.26% และ BY 10 ปีอยู่ที่ 2.62%อย่างไรก็ตามในมุมมองของฝ่ายวิจัยฯ คาดว่าหาก กนง.ไม่ลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน เม.ย.67 ก็คงต้องลดดอกเบี้ยรอบ ถัดไปพร้อมกับ FED ในการประชุมรอบ มิ.ย.67 เนื่องด้วยตัวเลขเชิง เศรษฐกิจของไทยดูไม่ดี และส่งสัญญาณชะลอตัวในหลายภาคส่วน ซึ่งการ ลดดอกเบี้ยจะเป็นการเพิ่ม UPSIDE ของ TARGET SET ราว 60-70 จุด (ขึ้นอยู่กับประมาณการ EPS67F) และช่วยเพิ่มปริมาณการซื้อขายราว 3-4 พันล้านบาท/วัน ดีต่อหุ้นกลุ่ม เช่าซื้อ,ธพ.ขนาดเล็ก, อสังหาฯ เป็นต้น

• นโยบายการคลัง วันนี้ติดตามการประชุม DIGITAL WALLET 10,000 บาท คาดทำให้รู้แนวทางของนโยบายดังกล่าวมากขึ้น ทั้งในส่วนของแหล่งที่มาของ เงิน, มูลค่าเม็ดเงินโครงการ, กดเกณฑ์ของผู้ที่จะได้รับสิทธิ ซึ่งหลายสำนัก เศรษฐกิจคาดการณ์ไว้ว่านโยบายดังกล่าว จะช่วยทำให้เกิดพายุหมุนทาง เศรษฐกิจช่วงสั้น หรือ คิดเป็นสัดส่วนราว 0.6%-1% ของมูลค่า GDP และ หนุน GDP GROWTH ทั้งปี2567 โตแตะระดับ 4% (หากไม่มี DIGITAL WALLET คาด GDP ปีนี้โตในกรอบ 2.8%-3.5%) ดีต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก, อาหาร-เครื่องดื่ม,ธพ., ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

• การสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนลงทุน ผ่านการเปิดเผยข้อมูล OUTSTANDING SHORT SELL POSITION หรือ สถานะคงค้างจากการ SHORT หุ้นนั้นๆ โดยจากข้อมูล พบว่า มีหุ้นที่ถูกมีสถานะ SHORT SELL คงค้าง ณ 5 เม.ย. 67 อยู่ 278 บริษัท มีมูลค่ารวม 8.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งมี สัดส่วนเพียง 0.5% ของ MAKET CAP ตลาดฯ เท่านั้น (รายละเอียดเพิ่มเติม อยู่ในบทวิเคราะห์ MARKET TALK ประจำวันที่ 9 เม.ย.67)

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

โดยสรุป นโยบายการเงิน-การคลังที่ดูดีขึ้นในอนาคต บวกกับมาตราการของ ตลท.ที่ ช่วยเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน หนุน SET INDEX กลับมาน่าสนใจมากขึ้น และเป็นหนึ่ง ในปัจจัยให้ FLOW ต่างชาติมีโอกาสไหลกลับได้ สังเกตได้จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าแรง วานนี้ ซึ่งระยะถัดไป หากนโยบายการเงิน-การคลังชัดเจนขึ้นดังที่หวังไว้ ยิ่งเป็นส่วน เสริมให้ SET INDEX สามารถ OUTPERFORM ตลาดหุ้นอื่นๆ ได้ไม่ยาก

คาดหวัง MOMENTUM FUND FLOW ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อ วานนี้ SET INDEX ปรับตัวขึ้นได้แรงสุดในเอเชียและแรงสุดในปีนี้+1.86% หรือ 25.53 จุด มาปิดเหนือ 1400 จุดอีกครั้ง ด้วยมูลค่าซื้อขายที่หนาแน่นขึ้น 4.8 หมื่น ล้านบาท ขณะที่น้ำหนักการลงทุนเอนเอียงไปที่หุ้นใหญ่ เพราะดัชนี SET50 OUTPERFORM +2.2% และหุ้นเล็ก อย่าง ดัชนี MAI และ SSET บวกน้อยกว่า +0.8% และ +0.7% ตามลำดับ

แรงผลักดันหลักๆ มาจาก FUND FLOW ที่ไหลเข้ามาแรง และน่าจะเป็นการซื้อสุทธิ เพิ่มเติมมากกว่าเกิดจากการ COVER SHORT SELLING ด้วยปัจจัยต่างๆ ดังนี้

• วานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยสูงถึง 6.0 พันล้านบาท และเชื่อว่าส่วนใหญ่เกิด จากเม็ดเงินใหม่ไม่ใช่จากการ COVER SHORT SELL สะท้อนได้จากข้อมูล หุ้นที่มีระดับ OUTSTANDING SHORT SELL สูงตามที่ตลาดฯ เปิดเผย วานนี้มีสัดส่วนลดลงเล็กน้อยเท่านั้น แต่กลับมีเม็ดเงินใหม่จาก NVDR ซื้อ สุทธิสวนขึ้นมาอย่างหนาแน่นในหุ้นที่มีสถานะคงค้าง SHOT SELL สูงเกิน 1 พันล้านบาท อาทิPTTEP, BDMS, BBL, AOT (BK:AOT), KBANK (BK:KBANK), PTT (BK:PTT), DELTA, EA, AWC, SCC, KTB, BANPU เป็นต้น ประเด็นดังกล่าวแสดงว่า ยังไม่เห็น การ COVER SHORT ที่ชัดเจนในวานนี้ แต่กลับมีเม็ดเงินใหม่เข้ามาหนุนหุ้น ขนาดใหญ่ พร้อมกับคาดหวังอาจเห็นการเกิด COVER SHORT SELL เข้า มาหนุนราคาให้ขยับขึ้นต่อในอนาคต

• ต่างชาติซื้อสุทธิสัญญา SET50 FUTURES เพิ่มสูงถึง 76,647 สัญญา (เทียบเท่าเม็ดเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท) ขณะที่ OI (สัญญาสถานะคงค้าง) มี การขยับขึ้นจาก 565,690 สัญญา เป็น 665,369 สัญญา หรือเพิ่มขึ้นกว่า 1 แสนสัญญา แสดงให้เห็นว่า นักลงทุนต่างชาติน่าจะไม่ได้ COVER SHORT SELL แต่เป็นการเพิ่มสถานะการลงทุนในตลาด TFEX เพิ่มขึ้นมากกว่า

ทั้ง 2 ส่วนแสดงให้เห็นว่า ต่างชาติเริ่มกลับมาสนใจเพิ่มน้ำหนักการลงทุน ทั้งในตลาด หุ้น และตลาด TFEX ไทย มากขึ้น ส่วน MOMENTUM ผลักดันให้ FUND FLOW ไหล เข้าเพิ่มเติมในเดือน เม.ย. มีอยู่หลายอย่าง ทั้งความคาดหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มเติมผ่านนโยบายการคลังและการเงิน ความเชื่อมั่นในเสถียรภาพตลาด หลักทรัพย์ และแนวโน้มผลประกอบการที่ทยอยดีมากขึ้น หนุนให้ SET INDEX น่าจะ ค่อยกลับมา OUTPERFORM ได้

ี่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ ชอบ AP SPALI SC ORI SIRI LH

วานนี้ที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ 2 รายการ คือ ลด ค่าธรรมเนียมโอนฯ จากเดิม 2% และค่าจดจำนองจากเดิม 1% เหลืออย่างละ 0.01% สำหรับบ้านมือ 1 และมือ 2 ที่มีราคาที่อยู่อาศัยไม่เกิน 7 ล้านบาท โดยมีผลถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2567 และ การลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลธรรมดาสำหรับสร้างบ้านใหม่ สูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาท คาดช่วยหนุนต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ซึ่งทางกระทรวงการคลัง คาดผลักดัน GDP ปีนี้โตอีก 1.7-1.8% สู่เป้าหมายทั้งปีโตเกิน 4% ภายใต้ 2 มาตรการข้างต้น ฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักไปที่การขยายเพดานมาตรการลดค่า โอนฯ-จดจำนองเพิ่มสู่ระดับราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท เนื่องจากครอบคลุมสินค้าในวง กว้างมากขึ้น จากเดิมที่กำหนดสิทธิให้เฉพาะบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทนั้น เพราะใน ระดับบ้านกลุ่มนี้คิดเป็นสัดส่วนน้อยระดับ 15-20% ของมูลค่าทั้งตลาดอสังหาฯ ทำให้กลุ่มที่ได้รับประโยชน์มีไม่มากนัก ขณะที่บ้านระดับ 7 ล้านบาท ซึ่งเจาะกลุ่ม ระดับกลาง คิดเป็นประมาณ 50-70% ของตลาดรวม โดยภายใต้การลด ค่าธรรมเนียมโอนฯ-จดจำนอง เหลืออย่างละ0.01% ทำให้คนซื้อประหยัดค่าใช้จ่ายได้ ประมาณ 19,850 บาทสำหรับบ้านมูลค่า 1 ล้านบาท (ปกติค่าธรรมเนียมโอนฯ อยู่ใน อัตรา 2% หรือ 2 หมื่นบาท โดยแบ่งคนละครึ่ง หรือ 1 หมื่นบาทสำหรับผู้ซื้อและผู้ขาย เมื่อมีการปรับลดเหลือ 0.01% หรือฝั่งละ 0.005% ทำให้ผู้ซื้อประหยัดไป 9,950 บาท ส่วนค่าจดจำนองปกติเป็นภาระของผู้ซื้ออย่างเดียว หากลดเหลือ 0.01% จากเดิม 1% ของวงเงินกู้ ดังนั้นหากกู้เต็ม 100% ทำให้เกิดการประหยัดไปอีก 9,900 บาท) ดังนั้นกรณีซื้อบ้านมูลค่าราคา 5 ล้านบาท และกู้เต็ม 100% (บ้านหลังแรก) จะทำให้ผู้ ซื้อประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 99,250 บาท และประหยัดเพิ่มเป็น 138,950 บาทสำหรับ บ้านราคา 7 ล้านบาท จากปกติต้องเสีย 140,000 บาท ขณะที่ฝั่งผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทจดทะเบียนใน SET จะได้อานิสงค์มากขึ้น เมื่อมี การขยายเพดานบ้านเป็น 7 ล้านบาทเช่นกัน เนื่องจากพอร์ตสินค้าส่วนใหญ่มีราคา ครอบคลุมระดับดังกล่าวอยู่แล้ว ทั้งนี้การมีมาตรการดังกล่าว จะช่วยให้BACKLOG รวมสิ้น 4Q66ระดับ 2.05 แสนล้านบาท (รวม JV 7.3 หมื่นล้านบาท) เป็นส่วนที่พร้อม ส่งมอบปีนี้ราว 1.13 แสนล้านบาท และ ที่เข้าข่ายเกณฑ์ราคาตามมาตรการสามารถ โอนฯ ได้ง่ายขึ้น รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการระบายสต๊อกคงค้างของผู้ประกอบการที่มี อยู่รวมเกือบ 8 แสนล้านบาท (เป็นสต๊อกคอนโดฯ สร้างเสร็จ 1.26 แสนล้านบาท) อย่างไรก็ดี คงต้องติดตามต่อไปว่าภาครัฐจะมีนำเสนอมาตรการเพิ่มเติมในอนาคต หรือไม่ เนื่องจากมาตรการข้างต้น ถือเป็น 2 ข้อเสนอจากทั้งหมด 8 ข้อเสนอที่ ภาคเอกชนยื่นต่อนายกรัฐมนตรี โดยยังคงมีข้อเสนอสำคัญ เช่น ยกเลิก LTV (การ ตัดสินใจขึ้นอยู่กับ ธปท. ซึ่งล่าสุดมีท่าทีปฏิเสธการผ่อนคลาย), ลดหย่อนภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง50% เป็นเวลา 1 ปี และทบทวนหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการถือ ครองที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติ โดยขยายเวลาเช่าจาก 30 ปี เป็น 60 ปี ฯลฯ รวมถึง การแก้ไขปัญหาในเรื่องกำลังซื้อและการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของแบงค์ นำสู่ การถูกปฎิเสธสินเชื่อในอัตราที่สูงขึ้น ซึ่งถือเป็นต้นตอสำคัญที่สร้างแรงกดดันต่อภา คอสังหาฯ

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

คงแนะนำลงทุนเท่าตลาดสำหรับกลุ่มฯ เลือกหุ้นเด่นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการ ดังกล่าว, มีพอร์ตสินค้าหลากหลาย, และปันผลเกิน 6% ได้แก่ AP (FV@16.00), SPALI (FV@B27.30), SC (FV@4.8), ORI( FV@B9.60), SIRI (FV@2.20) และ LH (FV@B10.00)

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย