Expanding trading hours will benefit some stocks
• SET: คาด SET Index แกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1360-1410 จุดใน สัปดาห์นี้ โดยปริมาณการซื้อขายเตรียมปรับตัวขึ้นหลังจะเริ่มมีการขยาย เวลาการเทรดเพิ่มขึ้นอีก 30 นาที ซึ่งเรามองว่าปัจจัยนี้จะเป็นประโยชน์ต่อ หุ้นบางกลุ่มในระยะถัดไป (รายละเอียดด้านล่าง) ในเชิงกลยุทธ์ แนะถือ ครองหุ้นได้ต่อไป
• Factors: สําหรับปัจจัยที่น่าติดตามประจําสัปดาห์นี้ ได้แก่
1) รายงานตัวเลขส่งออก-นําเข้าของไทยประจําเดือนกุมภาพันธ์ในวันที่ 26 มี.ค. ซึ่งล่าสุดตลาดคาดการณ์การขยายตัวที่ 4.50% และ 3.90% ตามล่าดับ ซึ่งน่าจะทําให้ดุลการค้าขาดดุล 0.5 พันล้านเหรียญฯ
2) รายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือนกุมภาพันธ์ในวันที่ 29 มีนาคม โดยมีตัวเลขที่น่าติดตามได้แก่ การบริโภคภาคเอกชน ดุลบัญชี เดินสะพัด และฐานเงิน
3) รายงานตัวเลข PCE ของสหรัฐฯประจําเดือนก.พ.ในวันที่ 29 มีนาคม
4) รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนประจําเดือนมีนาคมในวันที่ 31 มี.ค. ล่าสุดตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 50.2 หากออกมาที่ระดับนี้จริง จะถือเป็นการขึ้นมาเหนือโซน 50.0 ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน Trading hours: การออกมาตรการขยายระยะเวลาการซื้อขายของทาง ตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) ที่เพิ่มเวลาการซื้อขายช่วงบ่ายขึ้นอีกครึ่งชั่วโมง ต่อวัน นอกเหนือจะช่วยสร้างวอลุ่มเทรดให้กับตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นแล้ว ปัจจัยดังกล่าวอาจเป็นตัวช่วยทําให้หุ้นบางบริษัทสามารถยกระดับ
• Turnover ratio ของตนเองให้ขึ้นมา จนผ่านเกณฑ์ขั้นต่ําในการดํารงอยู่ใน ดัชนีสําคัญอย่าง SET50 และ SET100 ต่อไปได้
• Beneficiaries: ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลของเราล่าสุดจนถึง กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พบว่าหุ้นขนาดใหญ่ที่ยังสุ่มเสี่ยงต่อการดํารง อยู่ต่อในดัชนีสําคัญอย่าง SET50 เนื่องจากมีระดับ Turnover ratio ที่ผ่าน เกณฑ์ขึ้นมายังไม่มากนักจะได้แก่ DELTA, GULF, INTUCH, OR, TLI ส่วนหุ้นขนาดกลางใน SET100 ที่มีความเสี่ยงดังกล่าวเช่นกันจะได้แก่ BSRC และ BLA เราประเมินว่าหากการขยายเวลาเทรดนํามาสู่วอลุ่มการ ซื้อขายของหุ้นเหล่านี้ที่มากขึ้น จะทําให้โอกาสที่หุ้นเหล่านี้ดํารงอยู่ต่อไป ในดัชนีสําคัญ ก็จะมีสูงขึ้นโดยอัตโนมัติเช่นกัน เป็นประโยชน์ต่อตัวหุ้น โดยตรง
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities