A process of fine tuning
• SET: คาด SET Index เปิดตลาดปรับตัวลงวันนี้ และอาจหลุดระดับ 1400 จุดอีกครั้ง ภายหลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกถูกแรงกดดันจากความ คาดหวังการผ่อนคลายนโยบายการเงินของ Fed ที่ลดลง ซึ่งเป็นสิ่งที่เรา ย้าเดือนมาตลอดก่อนหน้านี้ (Market is way ahead of the Fed) และมอง ว่ากระบวนการดังกล่าวอาจยังไม่สิ้นสุด มองกลุ่มหุ้นที่มีโอกาสถูกกดดัน ได้แก่ กลุ่ม Rate sensitive อย่างไฟแนนซ์ และกลุ่ม Bond-liked อย่าง Utilities/REIT/IFF ในเชิงกลยุทธ์ แนะนําเพียงถือครองหุ้นในส่วนเดิม
• Fed: ไฮไลท์จากความเห็นของนาย Christopher Waller หนึ่งในบอร์ด ต่อไป ของ Federal Reserve เมื่อคืนนี้ ได้แก่
1) Fed ควรจะดําเนินนโยบายการเงินแบบระมัดระวังและเป็นระบบ (Cautious & Systematic) เมื่อจะเริ่มลดดอกเบี้ยในวงจรนี้
2) Fed น่าจะลดดอกเบี้ยในปีนี้ได้ ถ้าเงินเฟ้อสหรัฐฯไม่ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
3) ณ วันนี้ มองว่ายังไม่มีเหตุผลใดๆที่ Fed จะต้องรีบร้อนลดดอกเบี้ย อย่างรวดเร็วเหมือนกับหลายครั้งในอดีตที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ
• Reaction: จากความเห็นข้างต้น พบการเคลื่อนไหวในตลาดที่น่าสนใจ ได้แก่
1) นักลงทุนตลาดลดความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของ Fed ในเดือน มี.ค.ลง จากความน่าจะเป็นวันก่อนที่อยู่ที่ 81% ลงมาเหลือ 67%
2) เงิน USD และ UST yield ในตลาดปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้เงินบาท ล่าสุดอ่อนค่าขึ้นมาที่ 35.5 บาท/ดอลลาร์
• TU: บริษัทแจ้งมติกรรมการ เรื่องแผนถอนการลงทุนใน Red Lobster โดยเป็นไปได้ที่จะบันทึกการด้อยค่าที่ไม่ใช่เงินสดครั้งเดียว จ่านวน ประมาณ 18,500 ล้านบาท หรือประมาณ 530 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ใน 4Q66 เนื่องจากการที่จะสนับสนุนการดาเนินงานของ Red Lobster ต่อไป อาจต้องใส่เงินเพิ่มทุนเพิ่มเติม เมื่อประกอบกับสถานการณ์ เศรษฐกิจโลกและภายในสหรัฐฯ ทําให้มองการฟื้นตัวของธุรกิจภัตคาคาร ในสหรัฐฯ ของ Red Lobster ค่อนข้างยาก นอกจากนี้ยังมีมติกรรมการที่ อนุมัติการซื้อหุ้นคืนในวงเงิน 3.6 พันล้านบาท จํานวนหุ่นไม่เกิน 200 ล้าน หุ้น (คิดเป็นไม่เกิน 4.3% ของจํานวนหุ้นทั้งหมด) ในระยะเวลาตั้งแต่ 20 ก.พ. 67 ถึง 30 มิ.ย. 67 (ณ 3066 บริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่า เงินสดราว 8.4 พันล้านบาท)
• Impact: รายการดังกล่าวจะส่งผลให้ปี 2566 นี้อาจต้องรายงานผล ขาดทุนสุทธิราว 1.4 หมื่นล้านบาท ในขณะเดียวกัน TU จะหยุดรับรู้ส่วน แบ่งจาก Red Lobster ตั้งแต่ 1Q67 เป็นต้นไป ซึ่งจะทําให้แนวโน้มก่าไร ในระยะยาวของ TU ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากในอดีต TU ต้องรับรู้ส่วนแบ่ง ขาดทุนจาก Red Lobster เข้ามาปีละประมาณ 1 พันล้านบาท
• ทั้งนี้เรามองว่ารายการดังกล่าวจะไม่ส่งผลต่อฐานเงินทุนของ TU แม้ว่าจะ ทําให้สัดส่วน Net ID/E เพิ่มขึ้นจาก 0.65x ใน 3Q66 เป็น 0.84x แต่ยังต่า กว่าเป้าหมายของบริษัทที่วางไว้ที่ 1.0-1.1x ทั้งนี้ด้วยผลประกอบการปี 2566 ที่อาจขาดทุน ทําให้บริษัทต้องขอผ่อนผันเงื่อนไขด้านอัตราส่วนทาง การเงิน และการจ่ายปันผลกับผู้ถือหุ้นกู้ ซึ่งรายการดังกล่าวเป็นรายการ ที่ไม่ใช่เงินสดและไม่ได้กระทบความสามารถในการชําระหนี้และการ จ่ายปันผลของบริษัท
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities