Export/Gold
Export: เมื่อวานนี้มีประกาศตัวเลขส่งออกจากระทรวงพาณิชย์ ประจําเดือน พ.ย. โดยตัวเลขส่งออกเดือน พ.ย. ในรูปเงินดอลลาร์ขยายตัว 4.88% YoY แต่หดตัว 0.42% MoM ในขณะที่ในรูปเงินบาทนั้น หดตัว 0.21% YoY, แต่ขยายตัว 0.73% MoM โดยถ้ามาเจาะกลุ่มรายสินค้าที่มี การเติบโตที่น่าสนใจดังนี้
- กลุ่มยางพารามีการขยายตัว +14% YoY, +5% MoM ขยายตัว YoY เป็นครั้งแรกในรอบ 15 เดือน หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้อง NER, TEGH
- กลุ่มอาหารทะเลกระป๋องขยายตัว 2.4% YoY,+16% MoM เป็น ครั้งแรกในรอบ 12 เดือนที่มีการขยายตัว YoY หุ้นในกลุ่มที่ เกี่ยวข้อง TU
- กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงขยายตัว 3.28% YoY, -2.23% MoM นับว่า เป็นเดือนที่ 2 ที่สามารถขยายตัว YoY หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้อง ITC, AAI
- กลุ่มซอสพริกยังขยายตัว +77% YoY,-4% MoM นับว่าเป็นเดือน ที่ 7 ที่สามารถขยายตัว YoY หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้อง XO
- วงจรพิมพ์หรือ PCB หดตัว -2% YoY, +6% MoM แม้ว่าจะหดตัว YoY แต่อัตราการหดตัวนั้นลดลงจากเดือน ต.ค. ที่หดตัว -6% YoY เป็นสัญญาณบ่งบอกปัญหา Destocking ที่เกิดขึ้นนั้นมี แนวโน้มที่ดีขึ้น หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้อง KCE
๐ กลุ่มนํ้าผลไม้ยังขยายตัว +18% YoY, +2% MoM หุ้นในกลุ่มที่ เกี่ยวข้อง MALEE
Gold: จะเป็นสินทรัพย์ที่ Outperform ในปี 2024 จากการศึกษาของเรา ย้อนกลับไปยัง Cycle การลดดอกเบี้ยของ Fed 3 รอบหลังสุดตั้งแต่ปี 2000 (Figure 1) พบว่า ทองคําเป็นสินทรัพย์ที่ปรับตัวโดดเด่นมากที่สุด โดยในช่วงแรกมีการปรับตัวสูงขึ้นผกผันไปกับค่าเงิน USD ที่มี ทิศทางอ่อนค่า ส่วนในช่วงถัดไปหลังจากนั้น ยังสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ อีก แม้เงิน USD จะเริ่มแข็งค่าขึ้น เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวมักจะ มีเหตุการณ์วิกฤติบางอย่างเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติ Dot-com bubble ในปี 2001 วิกฤติ Lehman ในปี 2008 และวิกฤติ Covid ในปี 2020 ซึ่งกลายมาเป็นปัจจัยที่ทําให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย และทองคําก็ถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์นั้นด้วย โดยหาจังหวะเข้าซื้อในช่วง ไตรมาสแรกของปี 2024 ธนาคารกลางสหรัฐฯหรือ Fed จะยังไม่มีการปรับ ลดดอกเบี้ยใดๆเกิดขึ้น
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities