ข่าวสารทองคำประจำวัน
ราคาทองคำในตลาดโลกปิดบวก $13 ที่ระดับ $2,040 ในวันอังคารที่ 19 ธันวาคมโดยตลาดทองคำยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ เนื่องจากคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ขณะที่นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ หากสะท้อนเงินเฟ้อมีแนวโน้มไม่ลดลงหรือปรับตัวสูงขึ้น ก็จนลดโอกาสที่เฟดจะลดดดอกเบี้ยเร็วขึ้น อาจทำให้สกุลดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและทองมีโอกาสปรับตัวย่อลงมาบ้าง ในตรงกันข้ามหากสะท้อนเงินเฟ้อลดลง ทองมีจะมีทิศทางบวกต่อทันที
ข้อมูลทางเทคนิคแนวโน้มราคาทองคำ
ราคาทองคำเช้านี้เปิดตลาดที่ 2,040 usd/oz ขณะที่ราคาทองคำแท่งในประเทศขายออกราว 33,700 บาท โดยภาพรวมใหญ่ของราคาทองคำยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยสามารถตัดเส้นค่าเฉลี่ย 50,100,200 วันใน TF4H ทำ slope (ความชัน) เป็นบวกในทิศขาขึ้น โดยมีเส้นค่าเฉลี่ย 50,100 วัน เป็นจุดรองรับการพักตัวกลับลงมา แนวโน้ม Sideway กลยุทธการลงทุนแนะรอย่อซื้อ
สถิติที่น่าสนใจสำหรับราคาทองในตลาดโลกในเดือนธันวาคมในแต่ละปี 10 ปีย้อนหลัง
1.ราคาทองคำมีความผันผวนเล็กน้อยมีส่วนต่างระหว่างราคาสูงสุดกับราคาต่ำสุดของเดือนมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ $76.9
2.ราคาทองคำส่วนใหญ่ปิดบวกในเดือนธันวาคมเมื่อเทียบกับราคาปิดในเดือนพฤศจิกายนในแต่ละปีเกือบ 80%
3.จากข้อมูลสถิติย้อนหลังของผลตอบแทนเฉลี่ยของราคาทองคำ พบว่าราคาทองคำจะเริ่มมีการปรับตัวขึ้นในเดือนธ.ค. และเดือนม.ค. ของปีถัดไป หลังจากปรับตัวร่วงในเดือนพฤศจิกายน และให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่เป็นบวก ฝั่งซื้อได้เปรียบตลาด
ราคาทองคำเมื่อวานนี้
High 2047 usd/oz Low 2021 usd/oz
กลยุทธการลงทุนทองคำ
Gold Spot:
แนวรับ :2030/2020usd/oz
แนวต้าน :2050/2065 usd/oz
ทองคำ96.5%:
แนวรับ :33,600/33,500บาท
แนวต้าน:33,750/33,900บาท
หมายเหตุ ราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน
ทิศทางค่าเงินบาทประจำวัน
เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 34.86 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ 34.75-35.00 บาทต่อดอลลาร์
กองทุน SPDR (กองทุนที่ลงทุนในทองคำแท่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก)
ถือครอง 877.67ตัน (-2.02)
อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯล่าสุด
ดอกเบี้ยสหรัฐล่าสุดยังอยู่ที่ระดับ 5.25-5.50% ขณะที่ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 63.4% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนมี.ค. 2567 และยังคงคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนวน 6 ครั้งในปี 2567 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 1.50% มากกว่าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.75%
บทวิเคราะห์ข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯเท่านั้น บริษัทฯไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นโดย Ausiris Intelligence Dept. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 0-2613 -0820 หรือทางเว็บไซต์ www.ausiris.co.th