Volume is king
• SET: คาดดัชนี SET ในวันนี้อาจพักตัวบ้าง หลังปรับขึ้นมาแรงเมื่อวานนี้ แต่มองโมเมนตัมเชิงบวกระยะกลางยังคงไม่เปลี่ยน โดยประเมินเช่นเดิมว่า หลังจากดัชนี SET ผ่านการ Consolidate สร้างฐานในรอบนี้แล้ว จะสามารถทยอยฟื้นตัวต่อเนื่องได้ในช่วงปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้า ดังนั้น สําหรับผู้ที่ถือหุ้นอยู่แล้ว สามารถถือครองหุ้นต่อไปได้ โดยเฉพาะกลุ่มค้า ปลีกที่เราแนะน่าโฟกัสให้เป็น Core portfolio ต่อไป
• PPI: ในส่วนของข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ถือว่าออกมาเป็น ใจ โดยดัชนีราคาผู้ผลิตหรือ PPI ประจําเดือนต.ค.ออกมา โกว่าที่ตลาด คาดพอสมควร โดยหากเทียบกับเดือนก่อน ถือว่าหดตัวไปถึง 0.5% เป็น การหดตัวแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2020 ที่เกิดเหตุการณ์ Covid มอง ปัจจัยดังกล่าวตอกย้ําาความอ่อนแอของเงินเฟ้อสหรัฐฯในช่วงหลัง ซึ่งมีแต่ จะทําให้โอกาสในการยุติเส้นทางดอกเบี้ยขาขึ้นของ Fed มีมากขึ้นไปอีก
• Fund flow: ในส่วนของนักลงทุนต่างประเทศมีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยเมื่อ วานนี้ชื่อสุทธิหุ้นไทยสูงถึง 3.6 พันล้านบาท ถือเป็นยอดซื้อสุทธิสูงสุด นับตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมา แถมยังมีการ Long สุทธิใน SET50 futures อีก 4.9 หมื่นสัญญา ซึ่งเป็นยอดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. และถือเป็นการ เปิดสถานะใหม่ส่วนใหญ่อีกด้วย
• Volume: มูลค่าการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ปรับตัวสูงขึ้นอย่าง มีนัยสําคัญมาอยู่ที่ระดับ 6.3 หมื่นล้านบาท ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ ปลายเดือนก.ย.ที่ผ่านมา สอดคล้องกับระดับการมีส่วนร่วมของนักลงทุน สถาบันในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในช่วงถัดไปโดยเฉพาะในเดือนหน้า คาดว่านักลงทุนกลุ่มนี้จะเริ่ม Active มากขึ้นจากการออกกองทุน ประเภท ESG ออกมาเพื่อรองรับกับเม็ดเงินลงทุนเพื่อการประหยัด ภาษี
• Our take: มองการปรับเพิ่มขึ้นมาของวอลุ่มการซื้อขายในระดับ 6 หมื่นล้านบาทถือเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่งต่อทิศทางของตลาดหุ้นไทย ในช่วงถัดไป เนื่องจากหากนําจํานวนดังกล่าวมาเทียบเคียงกับมูลค่าการ Short selling ที่เกิดขึ้นในช่วงหลังเฉลี่ยวันละ 5 พันล้านบาทนั้น จะทําให้ การ Short sales คิดเป็นสัดส่วนเพียง 8% ของมูลค่าการซื้อขาย ทั้งหมดเท่านั้น (รูปที่ 1) ซึ่งถือเป็นระดับที่ยอมรับได้เนื่องจาก เทียบเคียงเท่ากับค่าเฉลี่ยที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา ไม่เหมือนกับช่วงที่ผ่านมาที่หุ้นไทยลงมาตลอดทางที่อัตราส่วนการ Short selling อยู่สูงในระดับ 10% ขึ้นไป กล่าวโดยสรุปคือว่าอิทธิพลของการ Short selling ที่มีต่อการปรับตัวลงของดัชนี SET นั้น มีโอกาสที่จะทยอย ลดลงในช่วงถัดไปนั่นเอง
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities