ข่าวสารทองคำประจำวัน
ราคาทองคำในตลาดโลกปิดลบเล็กน้อย 2usd/oz ปิดที่ระดับ 1960usd/oz หลังดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าและบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งกดดันตลาด แต่อย่างไรก็ตามทองคำยังปรับตัวลงไม่มากนัก เนื่องจากตลาดได้แรงหนุนในระหว่างวันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด สำหรับประเด็นที่ต้องติดตามในช่วงนี้ แนะติดตามประเด็นการเมืองสหรัฐฯ ว่าสภาคองเกรสจะสามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดภาวะ Government Shutdown ได้หรือไม่ พร้อมกับรายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานของสหรัฐฯ หลังจากที่ในช่วงระยะหลังนี้ สะท้อนการจ้างงานชะลอตัวมากขึ้น
ข้อมูลทางเทคนิคแนวโน้มราคาทองคำ
ราคาทองคำเช้านี้เปิดตลาดที่ 1960usd/oz หรือประมาณ 33,000กว่าบาท สำหรับราคาทองคำแท่ง 96.5% น้ำหนัก 1บาท โดยภาพรวมใหญ่ของตลาดทองคำไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 100วันได้ที่ระดับ1972usd/oz ในTF4H เพื่อกลับไปเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น ขณะที่ล่าสุดกราฟแท่งเทียนจ่อหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันที่ 1956 usd/oz หากไม่สามารถกลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าว ราคาทองมีโอกาสร่วงลงมาทำรูปแบบ Sideway ขณะที่บริเวณแนวรับถัดไปที่ระดับ 1932 ที่เส้นค่าเฉลี่ย 200วัน กลยุทธการลงทุนฝั่ง Sell ยังได้เปรียบตลาด
สถิติที่น่าสนใจสำหรับราคาทองในตลาดโลกในเดือนพฤศจิกายนในแต่ละปี (10 ปีย้อนหลัง)
1.ราคาทองคำมีส่วนต่างระหว่างราคาสูงสุดกับราคาต่ำสุดของเดือนมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ $106.8
2.ราคาทองคำส่วนใหญ่ปิดลบในเดือนพฤศจิกายนเมื่อเทียบกับราคาปิดในเดือนตุลาคมในแต่ละปีเกือบ
70% ในTF1M ก่อนที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในต้นเดือนธันวาคมถือว่าเป็นจังหวะดีก่อนสิ้นสุดปี 2566
ราคาทองคำเมื่อวานนี้
High 1975 usd/oz Low 1955 usd/oz
กลยุทธการลงทุนทองคำ
Gold Spot:
แนวรับ :1953/1943 usd/oz
แนวต้าน:1966/1976 usd/oz
ทองคำ96.5%:
แนวรับ :33,000/32,900บาท
แนวต้าน:33,150/33,250บาท
หมายเหตุ ราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน
ทิศทางค่าเงินบาทประจำวัน
เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 35.52 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ 35.40-35.70 บาทต่อดอลลาร์
กองทุน SPDR (กองทุนที่ลงทุนในทองคำแท่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก)
ถือครอง 870.45ตัน (คงที่)
อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯล่าสุด
ดอกเบี้ยสหรัฐล่าสุดยังอยู่ที่ระดับ 5.25-5.50% โดยล่าสุดตลาดยังคงคาดการณ์ว่าเฟดมีแนวโน้มจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมในวันที่ 13 โดยคาดการณ์อยู่ที่ 99% ขณะที่อีก 1% คาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนดังกล่าวอีก 0.25% อ้างอิงจาก CME GROUP
บทวิเคราะห์ข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯเท่านั้น บริษัทฯไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นโดย Ausiris Intelligence Dept. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 0-2613 -0820 หรือทางเว็บไซต์ www.ausiris.co.th