ข่าวสารทองคำประจำวัน
ราคาทองคำในตลาดโลกปิดบวก 10usd/oz ปิดที่ระดับ 1946usd/oz หลังเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าและบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ย่อตัว หลังนักลงทุนในตลาดปรับสถานะถือครองก่อนรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ ในวันนี้ ทั้งนี้หากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน กลับไม่ได้ชะลอลงตามคาด และออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ อาจทำให้ตลาดกลับมากังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟดต่อในเดือนธันวาคมอาจส่งผลให้ เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ มีโอกาสปรับตัวขึ้นและกดดันให้ ราคาทองคำเสี่ยงปรับตัวลงต่อ
ข้อมูลทางเทคนิคแนวโน้มราคาทองคำ
ราคาทองคำเช้านี้เปิดตลาดที่ 1946 usd/oz หรือประมาณ 33,200กว่าบาท สำหรับราคาทองคำแท่ง 96.5% น้ำหนัก 1บาท โดยภาพรวมใหญ่ของตลาดทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลงหลังหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 50วัน และ 100วัน ในTF4H โดยเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าวเริ่มชะลอตัวในการทำ slope (ความชัน)ติดลบและตัดเส้นค้าเฉลี่ย 100 วัน หากราคายังไม่สามารถฟื้นตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าวราคาทองมีโอกาสร่วงทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน บริเวณแนวรับถัดไปที่ระดับ 1925 กลยุทธการลงทุนย่อซื้อ อย่างไรก็ตามเราอาจเห็นราคาทองในประเทศปรับตัวลงไม่มากเนื่องจากยังได้รับอิทธิจากค่าเงินบาทที่ปรับตัวอ่อนค่าต่อเนื่อง
สถิติที่น่าสนใจสำหรับราคาทองในตลาดโลกในเดือนพฤศจิกายนในแต่ละปี (10 ปีย้อนหลัง)
1.ราคาทองคำมีส่วนต่างระหว่างราคาสูงสุดกับราคาต่ำสุดของเดือนมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ $106.8
2.ราคาทองคำส่วนใหญ่ปิดลบในเดือนพฤศจิกายนเมื่อเทียบกับราคาปิดในเดือนตุลาคมในแต่ละปีเกือบ
70% ในTF1M ก่อนที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในต้นเดือนธันวาคมถือว่าเป็นจังหวะดีก่อนสิ้นสุดปี 2566
ราคาทองคำเมื่อวานนี้
High 1949 usd/oz Low 1931 usd/oz
กลยุทธการลงทุนทองคำ
Gold Spot:
แนวรับ :1933/1925 usd/oz
แนวต้าน:1953/1966 usd/oz
ทองคำ96.5%:
แนวรับ :33,050/32,950บาท
แนวต้าน:33,200/33,300บาท
หมายเหตุ ราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน
ทิศทางค่าเงินบาทประจำวัน
เงินบาทเปิดตลาดแข็งค่าที่ระดับ 35.99 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ 35.85-36.20 บาทต่อดอลลาร์
กองทุน SPDR (กองทุนที่ลงทุนในทองคำแท่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก)
ถือครอง 868.51ตัน (คงที่)
อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯล่าสุด
ดอกเบี้ยสหรัฐล่าสุดยังอยู่ที่ระดับ 5.25-5.50% โดยล่าสุดตลาดยังคงคาดการณ์ว่าเฟดมีแนวโน้มจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมในวันที่ 13 โดยคาดการณ์อยู่ที่ 86% ขณะที่อีก 14% คาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนดังกล่าวอีก 0.25% อ้างอิงจาก CME GROUP
บทวิเคราะห์ข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯเท่านั้น บริษัทฯไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นโดย Ausiris Intelligence Dept. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 0-2613 -0820 หรือทางเว็บไซต์ www.ausiris.co.th