ข่าวสารทองคำประจำวัน
ราคาทองคำในตลาดโลกปิดคงที่ ที่ระดับ 1992 usd/oz โดยยังได้รับปัจจัยบวกจากสกุลดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าและบอนด์ยิลด์ 10ปี สหรัฐฯ ปรับตัวลง หลังรายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ และดัชนี ISM Services PMI ล่าสุด ออกมาแย่กว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มมองว่า เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น เป็นแรงหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้บ้าง อีกทั้งความกังวลต่อสถานการณ์สงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาสยังเป็นแรงหนุนการเข้าถือสินทรัพย์ปลอดภัย สำหรับราคาทองคำแท่งในประเทศปรับตัวลดลงต่อเนื่อง และเคลื่อนไหวที่ระดับ 33,400 บาท หลังเงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าต่อเนื่อง
สำหรับสัปดาห์นี้แนะติดตาม ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลัก โดยเฉพาะ เฟด พร้อมติดตามรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน และสถานการณ์สงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาสและพันธมิตร
ข้อมูลทางเทคนิคแนวโน้มราคาทองคำ
ราคาทองคำเช้านี้เปิดตลาดไปที่ 1992 usd/oz หรือประมาณ 33,400 กว่าบาท สำหรับราคาทองคำแท่ง 96.5% น้ำหนัก 1 บาท โดยภาพรวมใหญ่ของตลาดทองคำยังเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นใน TF4H การย่อซื้อยังได้เปรียบตลาด โดยเส้นค่าเฉลี่ย 50วัน อยู่ที่ 1987 usd/oz ยังทำ slope (ความชัน) เป็นบวกและตัดเส้นค่าเฉลี่ย 100,200วัน ใน TF4H แนวโน้มยังเป็น Uptrend การย่อซื้อยังได้เปรียบตลาด กลยุทธย่อซื้อโดยมีเป้าหมายที่ระดับ 2000-2010 usd/oz
สถิติที่น่าสนใจสำหรับราคาทองในตลาดโลกในเดือนพฤศจิกายนในแต่ละปี (10 ปีย้อนหลัง)
1.ราคาทองคำมีส่วนต่างระหว่างราคาสูงสุดกับราคาต่ำสุดของเดือนมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ $106.8
2.ราคาทองคำส่วนใหญ่ปิดลบในเดือนพฤศจิกายนเมื่อเทียบกับราคาปิดในเดือนตุลาคมในแต่ละปีเกือบ
70% ในTF1M ก่อนที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในต้นเดือนธันวาคมถือว่าเป็นจังหวะดีก่อนสิ้นสุดปี 2566
ราคาทองคำเมื่อวานนี้
High 2004 usd/oz Low 1986 usd/oz
กลยุทธการลงทุนทองคำ
Gold Spot:
แนวรับ :1985/1975 usd/oz
แนวต้าน:2000/2010 usd/oz
ทองคำ96.5%:
แนวรับ :33,400/33,300บาท
แนวต้าน:33,500/33,600บาท
หมายเหตุ ราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน
ทิศทางค่าเงินบาทประจำวัน
เงินบาทเปิดตลาดแข็งค่าที่ระดับ 35.54 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ 35.40-35.70 บาทต่อดอลลาร์
กองทุน SPDR (กองทุนที่ลงทุนในทองคำแท่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก)
ถือครอง 863.24ตัน (คงที่)
อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯล่าสุด
ดอกเบี้ยสหรัฐล่าสุดยังอยู่ที่ระดับ 5.25-5.50% โดยล่าสุดตลาดยังคงคาดการณ์ว่าเฟดมีแนวโน้มจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมโดยคาดการณ์อยู่ที่ 95% ขณะที่อีก 15% คาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนดังกล่าวอีก 0.25% อ้างอิงจาก CME GROUP (ปัจจัยบวกทองคำ)
บทวิเคราะห์ข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯเท่านั้น บริษัทฯไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นโดย Ausiris Intelligence Dept. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 0-2613 -0820 หรือทางเว็บไซต์ www.ausiris.co.th