Sideways
• SET: คาด SET Index แกว่งตัว Sideways ในวันนี้ ส่วนกรอบทั้งสัปดาห์ ยังคงประเมินที่ 1360-1420 จุด คงแนะนําถือครองหุ้นในส่วนเดิมต่อไป
• Earnings: สําหรับผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ออกมาเมื่อวานนี้ ตัวที่ ออกมา กว่าตลาดคาดได้แก่ ITC (ดีกว่าเราคาด 28%) และ ADVANC (ดีกว่าตลาดคาด 10%) คาดจะเป็น Sentiment หนุนตัวหุ้นในระยะสั้นได้ โดยเฉพาะ ITC ที่ยังคงเป็น Top pick ของเรามาอย่างต่อเนื่อง หลังเห็น สัญญาณการกลับมา Restocking ทั้งฝั่งสหรัฐฯและยุโรป คงคําแนะนํา “ข้อเก็งกําาไร” ที่ราคาเป้าหมาย 24.60 บาท
• Factors: สําหรับปัจจัยวันนี้ที่สําคัญได้แก่
1) จีนรายงานตัวเลข PMI ภาคการผลิตเดือนต.ค. ปรากฏว่าออกมาที่ ระดับ 49.5 ต่ํากว่าที่ตลาดคาดและระดับเดือนก่อนที่ 50.2 เล็กน้อย อาจเป็น Sentiment เชิงลบเล็กๆที่เกิดขึ้นเช้านี้
2) ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (Bol) ซึ่งล่าสุดตลาดเริ่มคาดว่าอาจ มี Surprise ในการปรับ Band swing ของ Bond yield อายุ 10 ปีให้ มากกว่า 1% หากเกิดขึ้นจริง จะถือเป็นการส่งสัญญาณที่ Hawkish มากขึ้นของ BoJ ซึ่งอาจทําให้เงินเยนมีการปรับแข็งค่าขึ้นในระยะสั้น ได้
3) รายงานตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยประจําเดือนก.ย. ล่าสุด ตลาดคาดการณ์เกินดุลที่ 2.1 พันล้านเหรียญฯ หากออกมาสูงกว่าคาด จะเป็นโมเมนตัมเชิงบวกต่อเงินบาทในระยะสั้นต่อไปได้
4) รายงานตัวเลข M2 ของไทยประจําเดือนก.ย. ว่าจะมีการหดตัว MoM ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันหรือไม่ หากเริ่มมีการฟื้นตัว จะถือเป็น สัญญาณที่ดีต่อสภาพคล่องภายในตลาดทุนได้
• Weekly picks: เราน่าเสนอหุ้นเด่นที่น่าสนใจประจําสัปดาห์นี้ ซึ่งมีปัจจัย เชิงบวกทั้งด้านพื้นฐานและธีมการลงทุนระยะสั้นสนับสนุน ได้แก่
1) MAJOR: กําไรรายไตรมาสกลับมาอยู่ในระดับก่อน COVID-19 สะท้อนการกลับมาใช้บริการของลูกค้า รายได้เกือบทุกส่วนฟื้นตัว ชัดเจน ทั้งในส่วนรายได้ค่าตั่ว ค่าสินค้าหน้าโรง และค่าโฆษณา กําไร 3Q66 อาจอ่อนตัว QoQ บ้าง เนื่องจากในไตรมาส 2 มีกําไร พิเศษจากการขาย MPIC แต่ภาพ 4Q66 อาจเห็นการเติบโตสูง จากหนัง Blockbuster ฝั่ง Hollywood และหนังไทยที่รายได้ถล่ม ทลาย อย่าง สัปเหร่อ และ ธีหยด ราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น PBV 1.8x ต่าเกือบเท่าช่วง COVID-19
2) RBF: คาดกําไร 3Q66 ทํา New High จากการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวลง อาจเห็นผลจากการขยายตลาดไปยังจีนและ อินเดียเพิ่มขึ้น รวมถึงการฟื้นตัวของตลาดเดิมอย่างอินโดฯและ เวียดนาม มีการปรับสัดส่วนยอดขายไปเน้นสินค้าในกลุ่ม Flavor & Fragrance มากขึ้น ซึ่งจะทําให้ GPM สูงขึ้น มี D/E ค่อนข้าง ต่าเพียง 0.18 เท่า Median Consensus อยู่ที่ 12.9 บาท ทําให้ราคา หุ้นปัจจุบันยังมี Upside
3) RCL: ดัชนีค่าระวางเรือ Container เริ่มปรับตัว Bottom out เด่นชัด มากขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้ผลบวกจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ ปรับตัวขึ้น และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน บริษัทมีการเพิ่มเรือใหม่ และเรือมือสองในช่วง 2Q66 ทดแทนเรือเก่าที่มีอายุเกิน 25 ปี ซึ่งจะ ทําให้ประสิทธิภาพการขนส่งดีขึ้น สัดส่วน D/E ค่อนข้างต่ําที่ 0.26x เท่า (เป็นเงินสด 1.4 หมื่นล้านบาท) ขณะที่ PBV อยู่ต่ําเพียงที่ 0.35x ซึ่งยังต่ํากว่าหุ้นในกลุ่ม Shipping ตัวอื่นๆ
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities