รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

Buy & Hold หุ้นปันผลสูง 

เผยแพร่ 25/10/2566 09:17

การปรับตัวลดลงที่ค่อนข้างแรงของ SET Index ทำให้ Upside เมื่อเทียบกับ เป้าหมายสิ้นปีซึ่งเรากำหนดไว้ที่ 1524 จุด อยู่ที่ระดับประมาณ 9.6% ซึ่งมาก พอควร ทำให้กลยุทธ์ที่เรานำเสนอให้ Buy & Hold โดยทยอยซื้อหุ้นพื้นฐานดี สะสมเพื่อการลงทุนในระยะกลาง-ยาว น่าจะทำงานได้ดี ทั้งนี้หุ้นอีกประเภทหนึ่งที่ น่าจะมีความเหมาะสมในภาวะตลาดเช่นนี้ น่าจะเป็นหุ้นปันผลสูง ซึ่งมีกระจายอยู่ ในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น SIRI, AP จากอสังหาฯ TISCO จากธนาคาร TOP จากโรงกลั่น MAJOR จากกลุ่มสื่อ SAT จากยานยนต์ เป็นต้น สำหรับ ทิศทางของ SET Index ในระยะสั้นยังอยู่ในภาวะที่ผันผวนแรง โดยมีสงคราม อิสราเอล-ฮามาส เป็นตัวขับเคลื่อน ส่วนปัจจัยในประเทศภาพหลักยังมีน้ำหนัก ทางบวก ล่าสุดตัวเลขดุลการค้าก็เป็นบวก ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทยอยมีผลบังคับใช้ออกมาต่อเนื่อง แม้Digital Wallet อาจเลื่อนออกไปเล็กน้อย

การที่ปรับลดลมาอยู่ที่บริเวณ 1390 จุด แม้ทาง Technical จะแสดงสัญญาณ Oversold แต่การฟื้นตัวก็ยังเกิดขึ้นได้จำกัด คาด SET Index วันนี้อยู่ในกรอบ 1385 –1415 จุด หุ้น Top Pick เลือก CPN, MAJOR และ WHA

สัญญาณเศรษฐกิจ ไม่ทำให้นโยบายดอกเบี้ย เปลี่ยนไป

วานนี้มีการประกาศตัวเลข PMI ภาคการผลิตสหรัฐฯอยู่ที่ 50.0 สูงกว่าคาดที่ 49.5 และสูงกว่าเดือนก่อนที่ 49.8 ทำระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน ส่วน PMI ภาคบริการ อยู่ที่ 50.9 สูงกว่าคาดที่ 49.8 และสูงกว่าเดือนก่อนที่ 50.1 ส่งผลให้ PMI Composite อยู่ที่ 51.0 สูงกว่าเดือนก่อนที่ 50.2 บวกกับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจด ทะเบียนในงวด 3Q66 ที่ประกาศออกมาวานนี้ อาทิโคคา-โคล่า, เจเนอรัล มอเตอร์, เวอ ไรซอน เป็นต้น โดยรวมจึงทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นทุกดัชนีราว 0.6-1%

ขณะที่ฝั่งยุโรปก็ประกาศตัวเลข PMI เช่นกัน เริ่มจาก PMI ภาคการผลิตเดือน ต.ค.66 ของฝรั่งเศสลดลงเหลือ 42.6 ต่ำกว่าคาดที่ 44.4 ขณะที่ PMI ภาคการผลิตเดือน ต.ค. 66 ของเยอรมันอยู่ที่ 40.7 ดีกว่าคาดที่ 40.0 และเป็นการฟื้นตัวต่อเนื่องเดือนที่ 3 แต่ PMI ภาคบริการอยู่ที่ 48.0 ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าและต่ำกว่าคาดที่ 50.0 และ สุดท้าย PMI ภาคการผลิตเดือน ต.ค.66 ของยุโรปอยู่ที่ 43.0 ต่ำกว่าคาดที่ 43.7 และ ต่ำกว่างวดก่อนหน้าที่ 43.4 จุด ประเด็นดังกล่าว สะท้อนการชะลอตัวของเศรษฐกิจ โซนยุโรป ทำให้ Upside การฟื้นตัวของสินทรัพย์เสี่ยงยังเป็นไปอย่างจำกัด

ทำให้เศรษฐกิจยุโรปมีความเสี่ยงในการเข้าสู่ Technical Recession มากขึ้น โดย ล่าสุด Bloomberg Consensus คาด GDP 3Q23 และ 4Q23 จะไม่ขยายตัวอยู่ที่ 0%QoQ เท่ากัน

ซึ่งประเด็น PMI ที่ดีกว่าคาดของสหรัฐฯ และ PMI ที่แย่กว่าคาดของยุโรป ยังไม่ได้เป็น ปัจจัยเปลี่ยนทิศทางอัตราดอกเบี้ยมากนัก เนื่องจากธนาคารกลางทั้ง 2 แห่งยังคงส่ง สัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยจนถึงสิ้นปีนี้ เริ่มจาก Fed ที่มีโอกาสคงดอกเบี้ยในระดับนี้ ต่อไป สะท้อนจาก Fed Watch tool ที่ตลาดคาดว่า Fed มีโอกาสคงดอกเบี้ยในการ ประชุมเดือนหน้า (ความน่าจะเป็นที่จะคงดอกเบี้ย 98%) ขณะที่การประชุมรอบ ธ.ค.66 และช่วงต้นปีหน้ามีการขยับความน่าจะเป็นที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 5.75% ขณะที่ ทาง ECB ก็จะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ เดิม 4.50% ขณะที่ในช่วงเวลาที่เหลือของปีจะมีการประชุมอีก 1 รอบในวันที่ 14 ธ.ค.66 ซึ่งตลาดคาดว่าจะคงดอกเบี้ยอีกเช่นกัน ดังนั้นจึงทำให้Flow มีโอกาสชะลอการไหลเข้า สินทรัยพ์เสี่ยงต่อไป และจำกัด Upside ของสินทรัพย์เสี่ยงทั้งในส่วนของตลาดหุ้น สหรัฐฯ และ ยุโรป

สรุป ตัวเลข PMI ที่ประกาศมาทั้งของสหรัฐฯ และยุโรป ยังไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนไป ถึงธนาคารกลางของทั้ง 2 แห่งว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงิน ทำให้ คาดว่าจะเห็นการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไปอีกระยะหนึ่ง ประเมินตลาดหุ้นฝั่ง พัฒนาแล้วมีโอกาสผันผวน และแกว่งทรงตัวในกรอบแคบต่อไป

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

ปัจจัยในประเทศสนับสนุนให้ Flow อาจชะลอไหลออกหุ้นไทย

วานนี้มีการประชุมครม.ซึ่งมีประเด็นที่นักลงทุนควรรับรู้ 3 เรื่อง ดังนี้

1. เลื่อนวันแจกเงิน DIgital ให้กับประชาชนในวันที่ 1 ก.พ.66 ออกไปก่อน เนื่องจากต้อง ใช้เวลามากขึ้นในการพัฒนาระบบที่ปลอดภัย แต่ยืนยันว่า การแจกเงินดิจิทัลดังกล่าว จะยังคงเกิดขึ้นภายในช่วง1H66

2. มีมติให้หยุดติดต่อกัน 4 วัน โดยโยกจากวันที่ 2 ม.ค.67 มาหยุดในวันที่ 29 ธ.ค.66 แทนซึ่งก็จะเป็นวันหยุด4 วันเท่าเดิม ส่วนปี 2567 ได้มีการเสนอ วันจันทร์ที่ 30 ธ.ค.67 เป็นวันหยุดเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้มีวันหยุด ติดต่อกันรวม 5 วัน คือ วันที่ 28 ธ.ค.67 ถึง 1 ม.ค.68

3. เห็นชอบในหลักการปรับลดราคาน้ำมันเบนซินลง 2.5 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 3 เดือน เฉพาะน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอลล์ 91 โดยจะใช้วิธีการปรับลดภาษีสรรพสามิต น้ำมันเบนซินชนิดนี้ลง โดยคาดว่าจะมีผลทันทีหลังจากที่นำรายละเอียดเข้าสู่การ ประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้าวันที่ 31 ต.ค. 66

ขณะที่ประเด็นถัดไป คือ ยอดส่งออกไทย ก.ย.23 ขยายตัว +2.1%ดีกว่าที่ตลาดคาดจะ หดตัว -1.7%yoy ส่วนนำเข้า -8.3%yoy หนุนดุลการค้า +2.09 พันล้านเหรียญฯ ขณะที่ในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.66) การส่งออก มีมูลค่ารวม 213,069 ล้าน ดอลลาร์ ลดลง 3.8%YoY การนำเข้ามีมูลค่ารวม 218,902 ล้านดอลลาร์ -6.0%YoY ซึ่งหากพิจารณาดุลการค้าเดือน ก.ย.66 เป็นบวกติดต่อกัน 2 เดือน ลุ้นดุลบัญชี เดินสะพัดบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 เช่นกัน ทั้งจากดุลการค้า และดุลบริการที่ได้แรง หนุนจากฤดูกาลท่องเที่ยวในประเทศ

หากพิจารณารายละเอียดสินค้าที่ส่งออกดี คือ สินค้าเกษตร และอุตสาหกรรมเกษตร อาทิ ข้าว ผัก-ผลไม้ กาแฟ ใบยาสูบ อาหารแปรรูป น้ำตาล เป็นต้น รวมถึงสินค้า อุตสาหกรรมอย่าง โซลาเซลล์น้ำมันดีเซล และเครื่องใช้ไฟฟ้า

สรุป ปัจจัยในประเทศทั้งมติ ครม. ที่มีนโยบายแบ่งเบาภาระประชาชน และยอดส่งออกที่ ทยอยสูงขึ้น หนุนดุลบัญชีเดินสะพัดบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หนุนให้ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆคาดดีตาม และหนุนให้ ค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่า ส่งผลให้ Flow ต่างชาติอาจไหล เข้าตลาดหุ้นไทยในระยะถัดไป โดยวันนี้คาด SET Index แกว่งในกรอบ 1385-1415 จุด

SET มีโอกาสฟื้น!!!แนะหุ้นปันผลสูงติดพอร์ตแล้วอุ่นใจขึ้น

วานนี้ตลาดหุ้นโลกมีการรีบาวน์ สะท้อนได้จากตลาดฟิวเจอร์สส่วนใหญ่ให้ ผลตอบแทนเป็นบวก โดยเฉพาะหุ้นจีนในตลาดหุ้นฮ่องกง พลิกจากลบมาบวกแรงสุด +2.29% น่าจะเป็น Sentiment ที่ดีกับตลาดหุ้นไทยในวันนี้ โดยเฉพาะหุ้นที่อิงกับ เศรษฐกิจจีน อย่าง SCGP, IVL, PTTGC, III, HANA, KCE

และยังเห็นอีกหนึ่งสัญญาณหนุนตลาดหุ้นไทยให้มีโอกาสรีบาวน์ คือ ดัชนีกองทุน ETF ที่อิงตลาดหุ้นไทยในต่างประเทศ พลิกกลับมาเป็นบวก 1.7%wtd ผิดกับ SETIndex ที่ ย่อตัวลงมา -0.6%wtd น่าจะเป็นสัญญาณว่าต่างชาติกลับสะสมหุ้นไทยมากขึ้นได้

ขณะที่ภาพรวมตลาดหุ้นไทยเริ่มเห็น Momentum เคลื่อนย้ายเม็ดเงินจากหุ้นที่ขึ้นมา แรงสลับมาหุ้นที่ปรับตัวลงมาลึก สังเกตได้จากกลุ่มหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้ดีในวานนี้ (24 ต.ค. 66) ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มหุ้นที่ปรับตัวลงมาลึกในปีนี้ อาทิ กลุ่ม MEDIA, CONS, FIN, COMM, FOOD, PETRO เป็นต้น ขณะเดียวกันหุ้นที่ Outperform ตลาดมานาน ก็เริมถูกขายทำกำไรเช่นกัน อาทิ กลุ่ม BANK ICT เป็นต้น

ในอีกมุมหนึ่งเพื่อหลบความผันผวนของตลาด แนะนำมีหุ้นปันผลเด่นติดพอร์ตน่าจะ ช่วยลดความผันผวนให้พอร์ตได้ดี ฝ่ายวิจัยฯ จึงทำการค้นหาหุ้นปันผลเด่น Sector ละ 1 บริษัท ที่มีการจ่ายสม่ำเสมอตลอด 5 ปีผ่านมา ได้ผลลัพธ์ หุ้นปันผลเด่นที่น่า ทยอยสะสม คือ SIRI, SAT, TISCO, TASCO, TOP, PYLON, MAJOR, M, JMT, ADVANC, HMPRO, PTTGC

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย