SET continues rebound/Rubber hits new high
• SET: คาดตลาดหุ้นไทยจะได้รับ Sentiment ที่ดีตามตลาดหุ้นอื่นบ้าง หลังตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงอยู่ในโหมดของการรีบาวด์ต่อเนื่อง สาเหตุ สําคัญมาจากการปรับลดลงของ Bond yield สหรัฐฯเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน มองเป็นปัจจัยทําให้ Risk sentiment ทั่วโลกฟื้นตัวในระยะสั้นต่อไป ส่วน ตลาดหุ้นเอเชียเช้าวันนี้ยังได้แรงหนุนจากกระแสข่าวที่ว่าทางการจีน อาจจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีกระลอก ทั้งนี้ประเด็น ที่เรากําลังเฝ้าจับตาได้แก่ค่าเงินบาท หลังในช่วง 2 วันที่ผ่านมาเป็นสกุล เงินในเอเชียที่ปรับตัวแข็งค่ามากที่สุด มองปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลบวก ต่อโมเมนตัมของ Fund flow ในระยะสั้นได้
• ในเชิงกลยุทธ์: สามารถถือครองหุ้นที่ได้เข้าสะสมต่อไป และรอจังหวะ การ Turnaround ของหุ้นไทย ซึ่งเราคาดว่าจะมี Timing อยู่ในช่วงการ ประชุม Fed ปลายเดือนนี้-ต้นเดือนหน้าเช่นเดิม จากการปรับขึ้นดอกเบี้ย ครั้งสุดท้ายของ Fed ที่มีลักษณะ Dovish Hike หรือ Insurance Hike นั่นเอง
• Rubber: ราคายางในตลาด TOCOM ปรับตัวสูงขึ้นทําจุดสูงสุดใหม่ที่ ระดับ 244 เยน โดยปัจจัยกระตุ้นในช่วงนี้ยังคงได้แก่ เศรษฐกิจจีนที่ ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องรวมถึงความคาดหวังการออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม ในอนาคต เงินเยนที่ปรับตัวอ่อนค่า และราคาน้ํามันดิบที่ทรงตัวในระดับสูง มองเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อกลุ่มยางในบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็น NER, STA, TEGH เป็นต้น
• TEGH: มองเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่น่าสนใจในกลุ่มยาง จากปัจจัยพื้นฐาน ดังต่อไปนี้
1) คาดแนวโน้มกําไร 3Q66 เริ่มฟื้นตัว QoQ หลังราคายางปรับตัวขึ้นจาก จุดต่าสุดในเดือน ส.ค. 66 ที่ผ่านมา ขณะที่ธุรกิจปาล์มจะเข้าสู่ High Season ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะมีการรับรู้ผลบวกจากการขยายกําลัง การผลิตอีกด้วย
2) ค่าสั่งซื้อยางจากผู้ผลิตยางล้อในสหรัฐฯ และยุโรป อาจยังชะลอตัว ตามสภาวะเศรษฐกิจ แต่อาจเห็นคําสั่งซื้อจากผู้ผลิตยางล้อจีนที่ ปรับตัวดีขึ้น รวมถึงการที่ผู้ผลิตรถยนต์ที่เข้ามาสร้างฐานการผลิตใน ไทยจะช่วยส่งเสริมยอดขายในประเทศ
3) ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาทําให้ Upside ค่อนข้างน่าสนใจ เมื่อเทียบราคา เป้าหมายที่ 4.2 บาท (อิ๋ง PER 10 เท่า)_
• SCC: คงราคาเป้าหมายที่ 325 บาทอิง PBV ที่ 1 เท่า คงคําแนะนํา Trading Buy ใน 3 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้น SCC ปรับลดลงไปกว่า -8% เรามองว่าตลาดรับรู้แนวโน้มของผลประกอบการที่จะยังไม่ฟื้นตัวไปบ้าง แล้ว คาด SCC จะรายงานกําไร 3Q23 ลดลงเหลือ 3 พันล้านบาท +25% YoY, -62% QoQ โดยเป็นผลจากทุกๆ ธุรกิจที่อ่อนตัวลง แนวโน้ม 4Q23 อาจจะยังอ่อนตัว QoQ ได้อีกจากมีการปิดซ่อมบํารุงโรง ROC ราว 40-45 วัน จะส่งผลต่อปริมาณขายที่จะลดลง รวมถึง Spread ปิโตรเคมีที ยังอ่อนแอ
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities