ทิศทางราคาทองคํา
ราคาทองคํายังคงทรงตัวในกรอบแคบที่ระดับราคา 1,860 เหรียญ ภาพรวมตลาดเริ่มคลาย กังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ซึ่งคาดว่าจะไม่ส่งผลก ระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลก โดยเมื่อวานนี้สัญญานํ้ามันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ที่ 85.97 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะในด้านสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในขณะนี้ยังไม่ได้ส่ง ผลกระทบโดยตรงต่อแหล่งผลิตนํ้ามันรายใหญ่ของโลก ในด้านดัชนีดาวโจนส์ ปรับเพิ่มขึ้น 134.65 จุด โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ชะลอตัวลง หลังจาก เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ ได้ออกมาสนับสนุนการยุติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ด้านดัชนี ดอลลาร์เช้านี้ปรับอ่อนค่า ที่ระดับ 105.75 จุด ทําให้ค่าเงินบาทแข็งค่า ที่ระดับ 36.46 บาทต่อ ดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้ราคาทองไทยปรับลดลงในวันนี้ สําหรับกองทุนทองคํา SPDR เมื่อวานขาย ออก 0.3 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 861.51 ตัน สําหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สําคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Core PPI m/m คาดการณ์ออกมาทรงตัวจากเดิม ขณะที่ PPI m/m คาดการณ์ออกมา ลดลงจากเดิม
วิเคราะห์ราคาทองคําทางเทคนิค
ราคาทองคําทางเทคนิค มีแรงซื้อดึงกลับขึ้นมาทรงตัวที่ระดับราคา 1,860 เหรียญ ซึ่งยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ในเชิงบวกเป็นวันที่ 3 อย่างไรก็ตาม ยังคงมองภาพหลักของราคาทองคําเป็นแนวโน้มทิศทางขาลง โดยมี Technical Rebound เข้ามาในระยะสั้น เหรียญ สําหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคําจะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 1,845 เหรียญ และมีแนวต้านที่ระดับ 1,880 เหรียญ สําหรับราคาทองคําไทยมีแนวรับที่ 31,800 บาท/บาททองคํา และมีแนวต้านที่ 32,300 บาท/บาททองคํา Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,875 เหรียญ และแนวต้าน 1,910 เหรียญ
โดยเน้นยํ้านักลงทุนว่า ราคาทองคําและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 15 - 30 เหรียญ ดังนั้น การ วิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
บทวิเคราะห์ข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯเท่านั้น และเป็นการวิเคราะห์โดยยึดหลักตาม Technical Analysis ทั้งนี้ บริษัทฯไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น นักลงทุนทุกท่านโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นโดย สถาบันการลงทุนทองคำ แม่ทองสุก MTS สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 0 2770 7788 หรือทางเว็บไซต์ mtsgold.co.th