ข่าวสารทองคำประจำวัน
ราคาทองคำในตลาดโลกปิดบวกครั้งแรกหลังราคาทองร่วงต่อเนื่อง 9 วันติดต่อกัน โดยปิดที่ระดับ 1832 usd/oz (+12usd/oz) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์
ข้อมูลทางเทคนิคแนวโน้มราคาทองคำ
ราคาทองคำเช้านี้เปิดตลาดไปที่ 1846 usd/oz หรือประมาณ 32,300กว่าบาท สำหรับราคาทองคำแท่ง 96.5% น้ำหนัก 1 บาท ภาพรวมราคาทองสร้างจุดกลับตัวและรีบาวน์กลับขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งหลังเผชิญแรงเทขายต่อเนื่องจนเข้าเขตภาวะขายมาก Oversold TF1D จนทำให้มีแรงซื้อกลับค่อนข้างสูง สามารถเบรคแนวต้าน 1832 usd/oz ขึ้นมาได้ทำให้กลับมาทดสอบแนวต้าน 1850 usd/oz อีกครั้งสำหรับวันนี้จับตาแนวต้านบริเวณ 1950 หากเบรคได้ต่อราคาทองอาจทะยานขึ้นต่อโดยมีแนวโน้มไปเป้าหมายที่แนวต้าน 1863-1873 usd/oz หากเบรคไม่ผ่านแนะแบ่งขายทำกำไรออกมาก่อนเนื่องจาก TF1H เริ่มเข้าเขตซื้อมาก Overbought อาจเผชิญแรงเทขายตามมา
สถิติที่น่าสนใจสำหรับราคาทองในตลำดโลกในเดือนตุลาคมในแต่ละปี 10 ปีย้อนหลัง
1.ราคาทองคำมีส่วนต่างระหว่างราคาสูงสุดกับราคาต่ำสุดของเดือนมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ $78
2.ราคาทองคำส่วนใหญ่ปิดลบในตุลาคมเมื่อเทียบกับราคาปิดในเดือนกันยายนในแต่ละปีเกือบ 60% ในTF1M
3.ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัวในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนซึ่งต้นเดือนถือเป็นจังหวะเข้าซื้อที่ราคาเหมาะสม
4.การคาดการณ์ราคาทองในเดือนตุลาคมปี 2023 เราคาดการณ์ราคาไฮสูงสุดอยู่ที่ประมาณ $1950 และคาดการณ์ราคาโลว์ต่ำสุด ในปี 2023 อยู่ที่ประมาณ $1805 อย่างไรก็ตามค่านี้เป็นการพยากรณ์เพียงแค่ค่าประมาณเท่านั้นไม่สามารถแทนความแน่นอนและความแม่นยำในการทำนายได้
ราคาทองคำเมื่อวานนี้
High 1834 usd/oz Low 1810 usd/oz
กลยุทธการลงทุนทองคำ
Gold Spot:
แนวรับ :1840/1830 usd/oz
แนวต้าน:1863/1873 usd/oz
ทองคำ96.5%:
แนวรับ :32,250/32,150บาท
แนวต้าน:32,400/32,500บาท
หมายเหตุ ราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน
ทิศทางค่าเงินบาทประจำวัน
เงินบาทเปิดตลาดอ่อนค่าที่ 36.94 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ 36.85-37.10 บาทต่อดอลลาร์
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้
ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ
กองทุน SPDR (กองทุนที่ลงทุนในทองคำแท่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก)
ถือครอง 865.85ตัน (คงที่)
อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯล่าสุด
ดอกเบี้ยสหรัฐล่าสุดยังอยู่ที่ระดับ 5.25-5.50% โดยล่าสุดตลาดยังคงคาดการณ์ว่าเฟดมีแนวโน้มจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพฤศจิกายนโดยคาดการณ์อยู่ที่ 80.3% ขณะที่อีก 19.7% คาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนดังกล่าว อ้างอิงจาก CME GROUP
บทวิเคราะห์ข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯเท่านั้น บริษัทฯไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นโดย Ausiris Intelligence Dept. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 0-2613 -0820 หรือทางเว็บไซต์ www.ausiris.co.th