นักลงทุนทั่วโลกยังคงวิตกกังวลกับการเดินหน้าปรับตัวสูงขึ้นของ Bond yield สหรัฐฯ

Why may we differ?

• World: นักลงทุนทั่วโลกยังคงวิตกกังวลกับการเดินหน้าปรับตัวสูงขึ้นของ Bond yield สหรัฐฯ ที่มีสาเหตุมาจากกระบวนการ Price in การขึ้นดอกเบี้ย Fed ที่รออยู่อีก 1 ครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราย้ําเตือนมาก่อนหน้านี้ว่าตลาดยังคง Underprice ความเสี่ยงนี้อยู่ ตราบใดที่ความน่าจะเป็นที่ตลาดให้ต่อ เหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่สูงพอ (ปัจจุบันอยู่ที่ 45%) ประเมินว่า Bond yield และเงิน USD จะยังคงมีโอกาสเดินหน้าต่อไป และเป็นปัจจัยกดดัน สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกในเดือนตุลาคม

• SET: อย่างไรก็ดี สําหรับภาพตลาดทุนไทยนั้นอาจแตกต่างกัน จาก 3 ประเด็น

1) การยุติวงจรดอกเบี้ยนโยบายขาขึ้นที่เกิดขึ้นก่อน อาจทําให้แรงส่งของ Bond yield ในประเทศในช่วงถัดไป ไม่มากเหมือนกับทางฝั่งสหรัฐฯ แล้ว ทําให้ ภาพ Yield gap ของสินทรัพย์เสี่ยงในประเทศไม่ได้ถูก กดดันมากเท่ากับทางฝั่งสหรัฐฯ

2) ดัชนีหุ้นไทยที่ปรับลงมาก่อนแล้ว ทําให้ Valuation ปัจจุบันอยู่ในระดับ ที่ถูกกว่าโดยเปรียบเทียบ

3) การปรับตัวลงมาแรงของหุ้น DELTA จนเข้าสู่ภาวะ Oversold หากตัวหุ้นมีการรีบาวด์ได้ในช่วงถัดไป จะเป็นปัจจัย ประคับประคองดัชนีที่สําคัญ ซึ่งเราประเมินว่ามีโอกาสมากด้วย เนื่องจากเพียงแค่ข้อมูลการซื้อขายวันแรกของเดือนตุลาคม Turnover ratio ของหุ้นตัวนี้ได้ขึ้นมาอยู่ที่ 0.5% แล้ว เพิ่ม โอกาสที่ดัวเลข ณ สิ้นเดือนจะอยู่สูงกว่าระดับ 2% ขั้นต่ําได้ โดยง่าย เพียงแต่ว่าสิ่งที่อาจต้องระมัดระวังมากขึ้นก็คือ หาก ความผันผวนมีมากเกินไป เกณฑ์เชิงคุณภาพหรือ Trading alert list อาจกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้งได้

• Strategy: เรายังคงประเมินว่า ดัชนี SET จะปรับตัวแข็งแกร่งกว่าตลาด หุ่นโลกอื่นได้ในเดือนตุลาคมนี้ และที่สําคัญ ระดับ 1470 จุดนี้ ถือเป็น ระดับเทียบเท่ากับระดับ PBV ที่ 1.4x ซึ่งในอดีตแล้วมักเป็นระดับที่ SET มี เสถียรภาพในทุกๆครั้งที่ดัชนีมีการปรับตัวลง ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์ ยังคง แนะนําให้ใช้จังหวะนี้ในการทยอยเข้าสะสมหุ้นในกลุ่มที่เรามองว่าน่าจะมี ความแข็งแกร่งกว่าตลาดในไตรมาส 4 ได้แก่

1) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ทั้ง Consumer staple ua Grassroot consumption anй CPALL (BK:CPALL), CPAXT, BJC, CRC, HMPRO, GLOBAL, DOHOME, TNP, MENA

2) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ยังคงแข็งแกร่ง ภาค การผลิตทั่วโลกที่ฟื้นตัว ภาวะ De-stocking ที่ผ่อนคลายลงและเริ่ม กลับกลายเป็น Re-stocking เลือกกลุ่มส่งออก อาทิ KCE, HANA, AAI, ITC, CPF, BTG, GFPT, TU รวมถึงกลุ่มเดินเรือและ Logistics ที่ได้ประโยชน์จากปริมาณการค้าขายและการขนส่งทั่วโลกที่กลับมา คึกคักมากขึ้น อาทิ PSL, RCL, III, LEO, SJWD, WICE

บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities