ภาพรวมราคาทองคํายังคงถูกกดดัน จากดัชนีดอลลาร์ที่แข็งค่าต่อเนื่อง

ทิศทางราคาทองคํา

ภาพรวมราคาทองคํายังคงถูกกดดัน จากดัชนีดอลลาร์ที่แข็งค่าต่อเนื่องและอัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปีที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี โดยเช้านี้ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ ระดับ 4.562% ภาพรวมตลาดยังคงจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคาร กลางสหรัฐ (เฟด) โดยคาดว่าตลาดยังคงถูกกดดันจากความกังวลด้านการปรับขึ้นของอัตรา ดอกเบี้ย ที่ยังมีโอกาสปรับขึ้นอีกครั้งในไตรมาสสุดท้ายนี้ ขณะที่ FedWatch Tool ล่าสุด ชี้ว่า นัก ลงทุนให้นํ้าหนัก 81.5% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 1 พ.ย. ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าเฟดน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยต่อไปถึงอย่างน้อยกลางปีหน้า ซึ่งเป็น ปัจจัยลบต่อราคาทองคํา สําหรับวันนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สําคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ CB Consumer Confidence และ New Home Sales ซึ่งคาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงจากเดิม สําหรับด้านกองทุนทองคํา SPDR เมื่อวานนี้ขายออก 0.87 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 876.52 ตัน

วิเคราะห์ราคาทองคําทางเทคนิค

ในทางเทคนิคราคาทองคําได้ปรับลดลงมาแนวรับ 1,915 เหรียญ โดยช่วงเช้านี้ยังคงต้องจับตาโซนแนวรับนี้ เนื่องจากราคาทองคํายังถูกกดดันและมีแรงเทขายอย่างต่อเนื่อง ภาพโดยรวมราคาทองคํายังอยู่ในลักษณะการ แกว่งตัวในกรอบ แต่ระยะสั้นมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงต่อไปทดสอบแนวรับจิตวิทยา 1,900 เหรียญได้ โดยวันนี้คาด ว่าราคาทองคําจะมีกรอบแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,900 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ 1,935-1,945 เหรียญ สําหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,900 เหรียญ และแนวต้าน 1,935 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมี กรอบแนวรับ 1,920 เหรียญ และแนวต้าน 1,955 เหรียญ สําหรับราคาทองคําไทยมีแนวรับที่ 32,700 บาท/บาท ทองคํา และมีแนวต้านที่ 33,100 บาท/บาททองคํา

บทวิเคราะห์ข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯเท่านั้น และเป็นการวิเคราะห์โดยยึดหลักตาม Technical Analysis ทั้งนี้ บริษัทฯไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น นักลงทุนทุกท่านโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นโดย สถาบันการลงทุนทองคำ แม่ทองสุก MTS สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 0 2770 7788 หรือทางเว็บไซต์ mtsgold.co.th