ราคาทองคําวันนี้ (15 ก.ย.) ยังแกว่งตัวในกรอบแคบ แต่มีการฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ ทั้งนี้ ราคาทองคํา ได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวขึ้นของค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ โดยค่าเงินดอลลาร์มีการปรับตัวขึ้น เข้าใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน ซึ่งเป็นผลมาจากแนวโน้มที่เศรษฐกิจสหรัฐอาจสามารถหลีกเลี่ยงกับภาวะถดถอยในตลอดช่วง 12 เดือนข้างหน้า แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนาน อย่างไรก็ดี ราคาทองคําได้รับแรงหนุน จากสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นของเศรษฐกิจจีน หลังในช่วงสายของวันนี้ จีนเผยตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีก เดือนส.ค. ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ เงินหยวนจึงปรับตัวแข็งค่าขึ้น ร่วมกดดันให้เงินดอลลาร์มีการย่อตัวลง แต่กระนั้น นักวิเคราะห์มีมุมมองว่า เศรษฐกิจจีนยังมีความเสี่ยงต่อการชะลอตัวลง เนื่องด้วยสถานการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ของจีนไม่ได้ส่งสัญญาณที่ดีขึ้น สอดคล้องกับตัวเลขการลงทุนในภาคส่วนดังกล่าว เดือนส.ค. ที่ปรับตัวลง 8.8% จากปีที่ผ่านมา ทําให้สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนนั้นยังไม่มีความแน่นอน ฉะนั้น ราคาทองคําอาจได้รับอานิสงส์เชิงบวกเพียงระยะหนึ่ง ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ที่ยังคงแกว่งตัวในระดับสูง อีกทั้งในสัปดาห์นี้ เงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นสุทธิเป็นสัปดาห์ที่ 9 ติดต่อกัน ด้วยเหตุนี้ ราคาทองคําจึงมีปัจจัยที่คอยกดดันให้ปรับตัวขึ้นได้เพียงระดับจํากัด อนึ่ง แนะนําติดตามตัวเลขเศรษฐกิจ ของสหรัฐ อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจําเดือนก.ย. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ที่จะถูกเปิดเผยในคืนนี้ เวลา 21:00 น.
คําแนะนํา
• เสี่ยงขายทํากําไร หากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านโซน 1,924-1,930 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• สถานะขายตัดขาดทุน หากราคาผ่านแนวต้านบริเวณ 1,953 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• ชื้อคืนทํากําไร หากราคาปรับตัวลงไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,889-1,884 ดอลลาร์ต่อออนซ์
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th