Highlight ปัจจัยพื้นฐาน
• ราคาทองคําปิดบวกเล็กน้อยที่ $1.83 รับคาดการณ์เศรษฐกิจจีนฟื้นตัว หลังธนาคารกลางจีน (PBOC) หั่นอัตราดอกเบี้ย RRR ลงอีกครั้ง
• ราคาทองคํามีการปรับตัวลงแตะระดับต่ําสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ จากการถูกกดดันด้วย ค่าเงินดอลลาร์ที่มีการดีดตัวขึ้นเข้าใกล้กับระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน ซึ่ง เช่นเดียวกับ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวขึ้น
• ค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐได้รับแรงหนุนที่สําคัญจาก ความเป็นไปได้ที่ เพิ่มมากขึ้นต่อคาดการณ์ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เผชิญกับภาวะถดถอย แม้ว่าเฟดจะค้าง อัตราดอกเบี้ยไว้ระดับสูงอย่างยาวนานก็ตาม
• มุมองเชิงบวกดังกล่าว เป็นผลมาจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอย่างดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และยอดค้าปลีก เดือนส.ค. ที่ออกมาสูงกว่าคาดการณ์ บ่งชี้ถึงแนวโน้มการขยายตัวของ กิจกรรมทางเศรษฐกิจจากทั้งฝั่งผู้ผลิตและผู้บริโภค ขณะเดียวกัน จํานวนผู้ขอรับสวัสดิการ ว่างงานรายสัปดาห์ที่ออกมาต่ํากว่าคาดการณ์ สะท้อนถึงภาวะตลาดแรงงานสหรัฐที่ยังแข็งแกร่ง
• ทิศทางของเศรษฐกิจและตลาดแรงงานสหรัฐ นับว่าส่งเสริมการกลับตัวขึ้นของเ นเฟ้อ โดยแม้ว่า เฟดจะพักการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ แต่มีโอกาสที่เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งใน ช่วงที่เหลือของปีนี้
• ECB ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง แม้จะมีแนวโน้มช่วยหนุนราคาทองคํา แต่ด้วยมุมมองเชิงลบที่ เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจยุโรป ประกอบกับมุมมองเชิงบวกของเศรษฐกิจสหรัฐ อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่ ECB จะเข้าสู่วงจรการยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งหมดนี้จึงทําให้ค่าเงินยูโรปรับตัวอ่อนค่าลง ราคาทองคําจึงไม่ได้รับอานิสงส์จากประเด็นดังกล่าว
คําแนะนํา
• เสี่ยงเปิดสถานะขายทํากําไรระยะสั้น หากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,924-1,930 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• เน้นทํากําไรจากการแกว่งตัว สถานะขายตัดขาดทุน หากราคาผ่านแนวต้าน 1,953 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• ปิดสถานะขายทํากําไรหากราคาปรับตัวลงไม่หลุดแนวรับ 1,889-1,884 ดอลลาร์ต่อออนซ์
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th