Economic Highlight
ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญฝั่งสหรัฐฯ โดยเฉพาะ อัตราเงินเฟ้อ CPI พร้อมทั้งรอลุ้นผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีน
*ราคาทองคำ = สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค.
FX Highlight
- สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้น หลังผู้เล่นในตลาดเพิ่มโอกาสเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อและโอกาสเฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นาน
- เราคงมุมมองเดิมว่า ทิศทางเงินดอลลาร์จะยังคงขึ้นกับมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด รวมถึงบรรยากาศในตลาดการเงิน
- เงินดอลลาร์มีโอกาสพลิกกลับมาอ่อนค่าลงได้ หากอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ชะลอลงตามคาด โดยเฉพาะ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI
- อนึ่ง หากบรรยากาศในตลาดการเงินยังอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) เงินดอลลาร์ก็อาจยังเป็นที่ต้องการของตลาดในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven)
- และนอกจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ก็อาจส่งผลต่อตลาดการเงินได้ โดยเฉพาะในกรณีที่ ECB ไม่ได้เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยตามที่ตลาดหวัง กดดันให้เงินยูโรเสี่ยงอ่อนค่าลง ซึ่งจะช่วยให้เงินดอลลาร์ยิ่งแข็งค่าขึ้น
- ในส่วนค่าเงินบาท ต้องจับตาฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติว่าจะทยอยไหลเข้าสินทรัพย์ไทยต่อเนื่องได้หรือไม่ หลังในช่วงนี้ ทิศทางฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติยังมีความผันผวนและไม่แน่นอน
- อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อทิศทางค่าเงินบาท คือ โฟลว์ธุรกรรมทองคำ หลังล่าสุดราคาทองคำยังคงอยู่ในช่วงปรับฐาน ซึ่งสวนทางกับสิ่งที่เราประเมินไว้ก่อนหน้า ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนยังคงทยอยซื้อทองคำในระยะนี้
- นอกจากนี้ ควรจับตาทิศทางเงินหยวนจีน ซึ่งอาจผันผวนไปตามความเชื่อมั่นของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งหากเงินหยวนอ่อนค่าลง ในกรณีที่ภาพเศรษฐกิจจีนยังคงซบเซา ก็อาจกดดันสกุลเงินฝั่งเอเชียให้อ่อนค่าลงได้เช่นกัน
- ในเชิงเทคนิคัล โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินบาทชะลอลง หลังเงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลงในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยสัญญาณจากทั้ง RSI และ MACD (Time Frame รายวัน) ที่ชี้ว่า เงินบาทมีโอกาสแกว่งตัว sideway หรือ sideway up (ทยอยอ่อนค่าลง)
- นอกจากนี้ ในส่วนของ Time Frame ที่สั้นลง เช่น H4 และ H1 สัญญาณจากทั้ง RSI และ MACD ชี้ว่า โมเมนตัมฝั่งอ่อนค่าเริ่มชะลอลงบ้าง ซึ่งต้องจับตาโซนแนวรับแรกแถว 35.20-35.30 บาทต่อดอลลาร์ โดยแนวต้าน 35.00 บาทต่อดอลลาร์ เป็นแนวต้านสำคัญถัดไป
Gold Highlight
- ราคาทองคำปรับตัวลดลง มากกว่าที่เราประเมินไว้ ตามจังหวะการปรับตัวขึ้นของทั้งบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ และเงินดอลลาร์
- สัปดาห์นี้ ลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อทิศทางราคาทองคำในระยะสั้นได้
- เราประเมินว่า ราคาทองคำอาจแกว่งตัว sideway จนกว่าตลาดจะทยอยปรับลดโอกาสเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย หรือ โอกาสเฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นาน
- ในเชิงเทคนิคัล สัญญาณจาก RSI และ MACD (Time Frame รายวัน) ยังคงชี้ว่า ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัว แกว่งตัว sideway หรือเสี่ยงที่จะปรับตัวลดลงต่อ (การปรับฐานยังไม่จบ) อย่างไรก็ดี หากพิจารณา Time Frame ที่สั้นลง อย่าง H4 และ H1 จะเริ่มเห็นสัญญาณว่า โมเมนตัมการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำเริ่มแผ่วลง และมีโอกาสที่ราคาทองคำอาจแกว่งตัว sideway หรือ ย่อตัวลงทดสอบโซนแนวรับได้
- เราคงเป้าราคาทองคำไว้ที่ 2,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้เรายังคงมองว่า ผู้เล่นในตลาดอาจรอจังหวะราคาทองคำปรับฐานในการทยอยเข้าซื้อได้
Economics Highlight