Economic Highlight
ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญฝั่งสหรัฐฯ อย่าง ดัชนี ISM PMI ภาคการบริการ พร้อมกับจับตา ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลัก โดยเฉพาะ เฟด และ ECB
**ราคาทองคำ = สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค.
FX Highlight
- สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวผันผวน sideway ไปตามการปรับมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของเฟดและบรรยากาศในตลาดการเงิน
- เราคงมุมมองเดิมว่า ทิศทางเงินดอลลาร์จะยังคงขึ้นกับมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด รวมถึงบรรยากาศในตลาดการเงิน
- เงินดอลลาร์มีโอกาสพลิกกลับมาอ่อนค่าลงได้ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ทำให้ผู้เล่นในตลาดยิ่งมั่นใจว่า เฟดอาจจะหยุดการขึ้นดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25-5.50%
- อย่างไรก็ดี หากบรรยากาศในตลาดการเงินยังอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) เงินดอลลาร์ก็อาจยังเป็นที่ต้องการของตลาดในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven)
- ในส่วนค่าเงินบาท ต้องจับตาฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติว่าจะทยอยไหลเข้าสินทรัพย์ไทยต่อเนื่องได้หรือไม่ หลังในช่วงนี้ ทิศทางฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติยังมีความผันผวนและไม่แน่นอน
- อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อทิศทางค่าเงินบาท คือ โฟลว์ธุรกรรมทองคำ ซึ่งต้องรอลุ้นว่า ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องหรือไม่ หลังราคาทองคำสามารถทรงตัวเหนือแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน ได้ แม้จะเผชิญแรงกดดันจากการปรับตัวขึ้นของเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ
- นอกจากนี้ ควรจับตาทิศทางเงินหยวนจีน ซึ่งอาจผันผวนไปตามความเชื่อมั่นของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งหากเงินหยวนแข็งค่าขึ้น ในกรณีที่ผู้เล่นในตลาดมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีนมากขึ้น ก็ส่งผลดีต่อบรรยากาศในตลาดการเงินเอเชีย และสกุลเงินฝั่งเอเชียมีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้
- ในเชิงเทคนิคัล โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินบาทชะลอลง หลังเงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลงในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยสัญญาณจากทั้ง RSI และ MACD (Time Frame รายวัน) ที่ชี้ว่า เงินบาทมีโอกาสแกว่งตัว sideway นอกจากนี้ เงินบาทก็ยังสามารถทรงตัวเหนือแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน แถว 34.80-34.90 บาทต่อดอลลาร์ได้
- นอกจากนี้ ในส่วนของ Time Frame ที่สั้นลง เช่น H4 และ H1 สัญญาณจากทั้ง RSI และ MACD ชี้ว่า มีโอกาสที่เงินบาทจะผันผวนอ่อนค่าลงได้บ้าง ซึ่งต้องจับตาโซนแนวต้านแถว 35.20-35.30 บาทต่อดอลลาร์ เป็นแนวต้านแรก และแนวต้าน 35.50 บาทต่อดอลลาร์ เป็นแนวต้านสำคัญถัดไป
Gold Highlight
- ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง มากกว่าที่เราประเมินไว้ ตามการปรับตัวลดลงของทั้งบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ และเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นทะลุโซนแนวต้านได้ ท่ามกลางแรงขายทำกำไร
- สัปดาห์นี้ ลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ที่อาจส่งผลต่อทิศทางราคาทองคำในระยะสั้นได้
- เราประเมินว่า ราคาทองคำอาจแกว่งตัว sideway จนกว่าตลาดจะทยอยปรับลดโอกาสเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย หรือ โอกาสเฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นาน ซึ่งอาจต้องรอถึงช่วงกลางเดือนกันยายนที่ตลาดจะรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ
- ในเชิงเทคนิคัล สัญญาณจาก RSI และ MACD (Time Frame รายวัน) ยังคงชี้ว่า ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ หรือ แกว่งตัว sideway อย่างไรก็ดี หากพิจารณา Time Frame ที่สั้นลง อย่าง H4 และ H1 จะเริ่มเห็นสัญญาณว่า โมเมนตัมการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำเริ่มแผ่วลง และมีโอกาสที่ราคาทองคำอาจแกว่งตัว sideway หรือ ย่อตัวลงทดสอบโซนแนวรับได้
- เราคงเป้าราคาทองคำไว้ที่ 2,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้เรายังคงมองว่า ผู้เล่นในตลาดอาจรอจังหวะราคาทองคำปรับฐานในการทยอยเข้าซื้อได้