ทิศทางราคาทองคํา
ราคาทองคํายังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยลงไปทําจุดตํ่าสุดใหม่ที่บริเวณ 1,885 เหรียญ ท่ามกลางแรงเทขายจาก กองทุนทองคํา SPDR ที่ขายทองออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้ SPDR ขายทองออกมา 6.93 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 887.5 ตัน ด้านดัชนีดอลลาร์ยังคงแข็งค่าอยู่เหนือระดับ 103 จุด โดยเมื่อวานนี้ดัชนีดอลลาร์เปิดที่ระดับ 103.48 จุด ขึ้นไปทํา สูงสุดที่ระดับ 103.60 จุด ขณะที่เช้านี้ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงมาเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 103.28 จุด สําหรับอัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีพุ่งทะลุ 4.3% แตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี หลังรายงานการประชุมเฟดส่งสัญญาณว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ สําหรับภาพรวมด้านเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อวานนี้ อยู่ในเกณฑ์ดี โดย Philly Fed Manufacturing Index ออกมาดีขึ้นกว่าคาดการณ์ และ Unemployment Claims ออกมาลดลงกว่าคาด บ่งชี้ ถึงภาพรวมตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจสหรัฐฯยังแข็งแกร่ง โดยไม่มีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ในปีนี้ ส่งผลให้หลาย ฝ่ายคาดว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่ออีกสักระยะนึง จากตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นปัจจัย กดดันตลาดทองคําในขณะนี้ ด้านภาพรวมเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอ หลังมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัว ของเศรษฐกิจจีนในปี 2567 โดยคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในปี 2566 จะขยายตัว 4.7% ซึ่งลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 5% และได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2567 ลงสู่ระดับ 4.2% จากระดับ 4.5% อีก ทั้งฟิทช์ เรทติ้งส์ ออกมาเตือนว่า อาจจะทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของจีนซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ A+ ลงสู่ระดับ A ซึ่งคําเตือนดัง กล่าวได้เพิ่มแรงกดดันให้กับตลาดการเงินของจีน จึงส่งผลให้นักลงทุนโยกเงินมาลงทุนในตลาดพันธบัตรสหรัฐฯแทน ด้าน ค่าเงินบาทยังคงอยู่ในทิศทางอ่อนค่า โดยค่าเงินบาทขึ้นไปยืนอยู่เหนือระดับ 35.50 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้ค่าเงินบาท แข็งค่าลงมาเล็กน้อย อยู่ที่ระดับ 35.40 บาทต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ กนง. ขณะที่ราคาทองคําไทยยังคงอยู่ในทิศทาง Sideways Down โดยลดลงจากระดับ 32,100 บาทต่อบาททองคํา ลงมาที่ ระดับ 31,750 บาทต่อบาททองคํา สําหรับราคานํ้ามันดิบยังคงยืนอยู่เหนือระดับ 80 เหรียญต่อบาร์เรล โดยสัญญานํ้ามันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.01 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 80.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเมื่อวานนี้
วิเคราะห์ราคาทองคําทางเทคนิค
ราคาทองคํายังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยลงไปทําจุดตํ่าสุดใหม่ในรอบ 5 เดือนที่บริเวณ 1,885 เหรียญ ภาพรวม ราคาทองคํายังคงอยู่ในแนวโน้มทิศทางขาลง โดยเชิงเทคนิคราคาทองคําหลุดระดับ Fibonacci 61.8% ซึ่งอาจเป็น สัญญาณบ่งชี้ว่าราคาทองคํามีโอกาสร่วงลงไปได้ต่อ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมในระยะสั้นราคาทองคํามีสัญญาณของกลับทิศ Bullish Divergence โดยเมื่อวานนี้จะเห็นว่าราคาทองคําพุ่งขึ้นมาเหนือระดับ 1,903 เหรียญได้ ขณะที่ยังมีแรงเทขายเข้ามา ในตลาดทองคําอยู่ต่อเนื่อง โดยคาดว่าราคาทองคําจะมีแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ระดับ 1,900 เหรียญ และมีแนวรับระยะสั้นถัดไป ที่ระดับ 1,880 เหรียญ สําหรับแนวรับระยะยาวอยู่ที่ระดับ 1,850 เหรียญ และ 1,832 เหรียญตามลําดับ โดยแนะนําให้นักลงทุน บริหารความเสี่ยงให้ดี และลดการถือสถานะ Long สําหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคําจะมีกรอบแนวรับระยะสั้นที่ 1,880 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,905 เหรียญ สําหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,895 เหรียญ และแนวต้าน 1,920 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,910 เหรียญ และแนวต้าน 1,935 เหรียญ สําหรับราคาทองคําไทยมีแนวรับ ที่ 31,500 บาท/บาททองคํา และมีแนวต้านที่ 31,900 บาท/บาททองคํา
บทวิเคราะห์ข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯเท่านั้น และเป็นการวิเคราะห์โดยยึดหลักตาม Technical Analysis ทั้งนี้ บริษัทฯไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น นักลงทุนทุกท่านโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นโดย สถาบันการลงทุนทองคำ แม่ทองสุก MTS สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 0 2770 7788 หรือทางเว็บไซต์ mtsgold.co.th