ข่าวสารทองคำประจำวัน
ราคาทองคำในตลาดโลกยังเคลื่อนไหวปิดต่ำกว่า 1900 usd/oz ซึ่งถือว่าปิดลบต่อเนื่องมาเป็น
วันที่ 9 แล้วโดยเมื่อวานนี้ราคาทองคำเปิดตลาดที่ 1893 usd/oz ก่อนที่จะกลับมาปิดลบที่ระดับ
1891 usd/oz โดยได้ปัจจัยลบจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลหลักและการ
พุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐแตะจุดสูงสุดในรอบ 15 ปี หลังรายงานการ
ประชุมเฟดล่าสุด ยังคงสะท้อนว่าเฟดมีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อได้ อีกทั้งตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 11,000 ตำแหน่ง สะท้อนตลาดแรงงานยังไม่แย่ปัจจัยทั้งหมดจึงเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ
ข้อมูลทางเทคนิคแนวโน้มราคาทองคำ
ราคาทองคำเช้านี้เปิดตลาดไปที่ 1893 usd/oz หรือประมาณ 31,700 กว่าบาท สำหรับราคาทองคำแท่ง 96.5% น้ำหนัก 1 บาท ภาพรวมใหญ่ราคาทองยังอยู่ในเทรนด์ขาลงแม้จะมีการรีบาวน์กลับมาบ้างแต่จะเป็นในลักษณะการรีบาวน์ขึ้นเพื่อลงต่อ การเก็งกำไรฝั่ง Buy ทำได้ในระยะสั้นเท่านั้น ฝั่งที่ได้เปรียบตลาดยังเป็นฝั่งขาย ทั้งนี้ทองจะกลับมาเป็นขาขึ้นระยะสั้นหากสามารถผ่านแนวต้าน 1910 usd/oz โดยมีเป้าถัดไปคือ 1920-1930 ทองจะมีสัญญาณลงต่อหากหลุด 1890 usd/oz หากไม่หลุดแนะย่อซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ทั้งนี้ราคาทองคำในประเทศจะปรับตัวร่วงไม่มากเนื่องจากได้รับอานิสงค์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า
ข้อมูลทางสถิติที่น่าสนใจในเดือนมิถุนายน
หากย้อนดูสถิติการเคลื่อนไหวทองในเดือนสิงหาคมย้อนหลัง 10 ปี เราพบว่าราคาทองส่วนใหญ่จะปรับตัวลดลงในช่วงต้นเดือนสิงหาคมเกือบ 90% ก่อนจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวช่วงเข้ากลางถึงปลายเดือนสิงหาคม มองว่าเป็นจังหวะดีในการทยอยเข้าซื้อช่วงต้นเดือน
ราคาทองคำเมื่อวานนี้
High 1893 usd/oz Low 1885 usd/oz
กลยุทธการลงทุนทองคำ
Gold Spot:
แนวรับ :1885/1875 usd/oz
แนวต้าน:1905/1910 usd/oz
ทองคำ96.5%:
แนวรับ :31,700/31,600บาท
แนวต้าน :31,800/31,900บาท
หมายเหตุ ราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน
ทิศทางค่าเงินบาทประจำวัน
เงินบาทเปิดตลาดอ่อนค่าที่ 35.49 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ 35.30-35.60 บาทต่อดอลลาร์
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้
ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ
กองทุน SPDR (กองทุนที่ลงทุนในทองคำแท่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก)
ถือครอง 887.50ตัน (-6.93ตัน)
อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯล่าสุด
ดอกเบี้ยสหรัฐล่าสุดปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 0.25% อยู่ที่ระดับ 5.25-5.50% ในเดือนที่ผ่านมา ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดมีแนวโน้มจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปในเดือนกันยายนโดยคาดการณ์อยู่ที่ 88% ขณะที่อีก 12% คาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย อ้างอิงจาก CME GROUP
บทวิเคราะห์ข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯเท่านั้น บริษัทฯไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นโดย Ausiris Intelligence Dept. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 0-2613 -0820 หรือทางเว็บไซต์ www.ausiris.co.th