Politics / DELTA in focus / BANK
• SET: คาด SET Index แกว่งตัว Sideways วันนี้ โดยมีปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ราคาน่ามันดิบโลกที่ปรับสูงขึ้น ขานรับความคาดหวังการออก Wait & See ต่อไป มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนซึ่งจะมีการประชุมของ Politburo ในสัปดาห์นี้ มองปัจจัยดังกล่าวส่งผลบวกต่อกลุ่ม Oil & Gas ของไทยใน เช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยกดดันด้าน Sentiment มองไปยังภาวะ Overhang ของปัจจัยการเมืองไทย ที่นับวันดูเหมือนจะมีแต่ทางตันมากขึ้น ไม่นับรวมกับความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาลที่อาจเกิดขึ้น หากศาล รัฐธรรมนูญมีการวินิจฉัยสัปดาห์นี้ว่า การไม่เสนอชื่อคุณพิธาชิงตําแหน่ง นายกฯในรอบที่ 2 นั้น เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ ภาวะสุญญากาศดังกล่าว ทําให้เราเริ่มเห็นแรงขาย Lock กําไรของนักลงทุนต่างชาติในระยะสั้น ทั้งในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้
• Strategy: มองกรอบการแกว่งตัวของ SET สัปดาห์นี้ที่ 1500-1560 จุด ในเชิงกลยุทธ์ ไม่ว่าสถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไร เราคงกรอบแนว ตัานสําคัญของรอบนี้ที่ SET ระดับ 1560 จุดตามเดิม ซึ่งถือว่าเป็นระดับดี ที่สุดตามวิธี PE Model ของเราแล้ว ด้วยเหตุนี้ ในภาพรวมยังคงแนะนํา
• DELTA: ราคาหุ้น DELTA ยังคงเดินหน้าปรับขึ้นต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่ หลุด Trading alert list นับตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ราคาหุ้นปรับ เพิ่มขึ้นมาแล้วกว่า 8% และเป็นปัจจัยสําคัญที่ผลักดันดัชนี SET ราว 8 จุด ในช่วงดังกล่าว ทั้งนี้ เราประเมินว่า ยิ่ง DELTA มีการปรับตัวสูงขึ้นไป มากกว่านี้เท่าไหร่ จะเริ่มมีความเสี่ยงที่บริษัทจะถูกแจ้งถามจากทางตลท. มากขึ้น จนอาจน่ามาสู่ความเสี่ยงที่ตัวหุ้นจะถูกให้ขึ้นบัญชีก่ากับมาตรการ ซื้อขาย (Trading alert list) อีกครั้ง ดังที่เคยเกิดขึ้นใน 2 รอบก่อนหน้านี้ ทั้งในเดือนเมษายนและเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้จึงแนะนําให้ใช้ ความระมัดระวังอย่างสูงต่อด้วหุ่นดังกล่าว ทั้งนี้ หากในช่วงถัดไปตัวหุ้นถูก ให้ขึ้นบัญชีดังกล่าวจริง ค่อนข้างจะแน่นอนว่าตัวหุ่น DELTA จะถูกถอด ออกจากการคําานวณดัชนีสําคัญเช่น SET50 และ SET100 ในรอบ 1H24 ที่จะประกาศออกมาในช่วงปลายปีนี้
• BANK: กลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับลงแรงวานนี้หลังนักลงทุนเริ่มกังวลกับ ปัญหาคุณภาพสินทรัพย์ ภายหลังจากที่ธนาคาร KKP ประกาศงบฯออกมา แล้วพบว่ามีการตั้งสารองุสูงขึ้น และขาดทุนรถยึดยังอยู่ในระดับสูง ด้าน NPL ปรับขึ้นจากสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง ส่งผลลบด้าน Sentiment ต่อไปยังธนาคารอื่นที่มีลูกค้ารายย่อยและลูกค้า SME ขนาดเล็ก รวมไปถึงกลุ่ม Consumer finance จ่าพวกสินเชื่อจํานํา ทะเบียนอีกต่อหนึ่ง สําหรับกลุ่มแบงก์นั้น ยังคงมองธนาคารที่ปลอดภัย ได้แก่ ธนาคารที่มีฐานลูกค้า Corporate และรัฐวิสาหกิจในระดับสูง ซึ่งมี แนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีกว่า ซึ่งได้แก่ BBL และ KTB เหมือนเดิม เรายังคงแนะนํา “ซื้อ” หุ้นทั้ง 2 ตัวนี้ที่ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน 181 และ 24 บาทตามล่าดับ
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities