ราคาทองวันนี้ (11 ก.ค.) มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นจากวันก่อนหน้า ทั้งนี้ ราคาทองคํามีปัจจัยหนุนที่สําคัญมาจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง เนื่องด้วยถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายรายมีการส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต อันใกล้ จากมุมมองที่ว่า เฟดใกล้บรรลุเป้าหมายด้านเงินเฟ้อแล้ว ขณะที่ในช่วงบ่ายวันนี้ สํานักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษทําการเปิดเผย ตัวเลขดัชนีรายได้โดยเฉลี่ยที่ไม่รวมโบนัสระหว่างเดือนมี.ค.พ.ค. เพิ่มขึ้น 7.3% จากช่วงเดียวกันในก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของ นักวิเคราะห์ที่ 7.1% อีกทั้งนับเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลในปี 2001 ซึ่งการเพิ่มขึ้นของรายได้อย่างต่อเนื่องเช่นนี้ มีแนวโน้ม ทําให้เงินเฟ้อในอังกฤษยังคงค้างตัวอยู่ในระดับสูง ด้วยเหตุนี้ ธนาคารอังกฤษ (BOE) ยังมีความจําเป็นต้องเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่าง แข็งกร้าว เพื่อสกัดความรุนแรงของภาวะเงินเฟ้อภายในประเทศ โดยค่าเงินปอนด์ตอบรับด้วยการดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือน กดดันให้ดอลลาร์ปรับตัวลงแตะระดับต่ําสุดในรอบ 2 เดือน ราคาทองคําจึงได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมให้ดีดตัวขึ้นในช่วงบ่าย อย่างไรก็ดี แม้จะมี สัญญาณที่เฟดอาจจะหยุดวงจรการขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่กระนั้น ยังแนะนําให้ติดตามตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย. ของสหรัฐ ในวันพรุ่งนี้ (12 ก.ค.) เพื่อประเมินแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดต่อไป
คําแนะนํา
• เสี่ยงซื้อทํากําไรระยะสั้น หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับโซน 1,912-1,902 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• รอทยอยขายทํากําไร หากราคาปรับตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านโซน 1,934-1,942 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• สถานะซื้อตัดขาดทุน หากราคาย่อตัวลงหลุดแนวรับที่ 1,902 ดอลลาร์ต่อออนซ์
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th