รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

มีโอกาสผันผวนต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง 

เผยแพร่ 18/05/2566 09:44

ปัจจัยการเมืองในประเทศถือเป็นปัจจัยหลักที่สร้างความผันผวนให้กับ SET Index และหากประเมินตามลำดับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแล้ว เชื่อว่ามีโอกาสที่จะเห็น ความผันผวนต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง โดยจากนี้ไปจนกว่าจะเปิดสมัยประชุมรัฐสภา ครั้งแรก (น่าจะเป็นสัปดาห์ที่ 1 หรือ 2 ของเดือน ก.ค.66) ตลาดฯ จะผันผวนไป ตามทิศทางกระแสข่าวบวก-ลบ บนความคาดหวังเรื่องการตั้งรัฐบาลและโหวต เลือกนายกรัฐมนตรี ส่วนปัจจัยภายนอก ความสนใจอยู่ที่การเจรจาปรับเพดานหนี้ ของสหรัฐฯ ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังเป็นช่วงเจรจาต่อรอง หากไม่เห็นข้อสรุปที่ เหมาะสมก็เชื่อว่าจะสร้าง Sentiment เชิงลบต่อตลาดหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ อีก เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคือทิศทางของ Fund Flow ซึ่งยังเห็นแรงขายจากนักลงทุน ต่างชาติออกมาค่อนข้างแรง สวนทางกับการซื้อตราสารหนี้ในช่วงที่ผ่านๆ มา

ประเมินจากปัจจัยแวดล้อมดังกล่าวมาข้างต้น เป็นไปได้ที่จะเห็น SET Indexอยู่ใน ความผันผวนไปอีกระยะหนึ่ง SET Index มีแนวรับบริเวณ 1507-1520 จุด แนว ต้าน 1545 จุด Top Pick เลือก ADVANC, MAJOR และ TTCL

ความกังวล DEBT CEILING สหรัฐผ่อนคลาย

แต่ภาวะ RECESSION อาจยังรออยู่ข้างหน้า วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นมาแรงราว +1.2% ถึง +2.2% สวนทางกับ CDS สหรัฐ ที่เริ่มปรับตัวลดลง หลังความกังวลต่อการผิดนัดชำระหนี้สหรัฐฯ ผ่อนคลายมากขึ้น โดย ปธน. โจ ไบเดน และ ประธาน สส. เควิน แมคคาร์ธี เห็นพ้องกันและตั้งเป้าที่จะบรรลุ ข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ภายในวันอาทิตย์นี้(21 พ.ค.)

หากอ้างอิงจากแผนงบประมาณเดิมที่ ส.ส. ได้ผ่านร่างกฎหมายแล้ว จะต้องเพิ่มเพดาน หนี้ 1.5 ล้านล้านเหรียญฯ เพื่อแลกกับการลดค่าใช้จ่ายจากนโยบายต่างๆ ของภาครัฐที่ เคยหาเสียงไว้ อาทิ การให้กู้เพื่อการศึกษา, มาตรการสนับสนุนอุตสาหกรรมพลังงาน หมุนเวียน, เงินช่วยเหลือช่วงที่เกิดโควิด ฯลฯ โดยรวมจะอยู่ที่ 4.5 ล้านล้านเหรียญฯ ภายในระยะเวลา 10 ปีนอกจากนี้Moody Analytics ยังประเมินว่า หากสหรัฐมีการ ขยายเพดานหนี้จะส่งผลให้ในช่วง 4Q66-4Q67 GDP ของสหรัฐปรับตัวลดลง 0.07% - 0.7% ส่วนการจ้างงานมีโอกาสปรับตัวลงเช่นกันราว 67 - 569 ล้านคน เมื่อเทียบกับการ ดำเนินนโยบายแบบปกติที่ไม่มีการขยายเพดานหนี้

แต่ในทางกลับกันหากร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ไม่ถูกรับรองก่อนครบกำหนดวันชำระ หนี้ (1 มิ.ย.) ก็อาจเป็นปัจจัยที่เข้ามากดดันตลาดหุ้นได้อีกครั้ง และอาจกระตุ้นความ เสี่ยงเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะ Recession ในระยะข้างหน้าได้ จึงต้องติดตามตัวเลข ทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด

สรุป ความกังวลต่อการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ ผ่อนคลายมากขึ้น หลังการรับรอง ขยายเพดานหนี้มีความเป็นปได้สูงที่จะบรรลุข้อตกในอาทิตย์นี้ จึงกลายเป็น Sentiment เชิงบวกที่เข้ามาช่วยหนุนตลาดหุ้นในช่วงสั้นๆ อย่างไรก็ตามความเสี่ยง เรื่อง Recession ที่รออยู่ข้างหน้ายังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นปัจจัยที่ มักจะกดดันสินทรัพย์เสี่ยง

YIELD CURVE ไทยปรับตัวขึ้น สอดรับการขึ้นดอกเบี้ยของ กนง. สิ้น เดือนนี้

หลังตัวเลข GDP ในช่วง 1Q66 ประกาศออกมาเติบโต +1.9%QoQ และ +2.7%YoY สูง กว่าตลาดคาดที่ +1.8%QoQ และ +2.3%YoYโดยมีแรงหนุนจากทั้งภาคการท่องเที่ยวที่ ฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ และการบริโภคของประชาชนในช่วงต้นปี ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจ สามารถกลับมายืนเหนือสมมุติฐานระดับก่อนเกิดโควิดได้แล้ว บวกกับ Yield Curve ตราสารหนี้ไทยที่ยกขึ้นสำหรับอายุ 3 เดือน – 2 ปีตั้งแต่ต้นเดือน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

• ตราสารหนี้อายุ 3 เดือน ปรับขึ้นจาก 1.61% สู่ 1.75%

• ตราสารหนี้อายุ 6 เดือน ปรับขึ้นจาก 1.70% สู่ 1.82%

• ตราสารหนี้อายุ 1 ปี ปรับขึ้นจาก 1.80% สู่ 1.94%

• ตราสารหนี้อายุ 2 ปี ปรับขึ้นจาก 1.90% สู่ 2.01%

ประเด็นดังกล่าว ทำให้นักลงทุนกังวลการประชุม กนง.วันที่ 31 พ.ค.66 จะมีการปรับขึ้น ดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งจาก 1.75% สู่ 2.00% อ้างอิงจากตราสารหนี้อายุ 1 ปีที่ปรับตัวขึ้นเข้า ใกล้สู่ระดับ 2.00% ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่าการขึ้นดอกเบี้ยตามกลไกเป็นตัวจำกัด Upside ของตลาดหุ้นไทยให้แคบลง กดดันตลาดหุ้นช่วงสั้นๆ แต่ในเชิงเปรียบเทียบ ดอกเบี้ยนโยบายไทยยังต่ำกว่าหลายๆประเทศ พร้อมกับกำไรบริษัทจดทะเบียนปีนี้มี แนวโน้มเติบโตเด่น 12% สอดคล้องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

โดยกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์ มีดังนี้

• กลุ่มธนาคารพาณิชย์BBL KBANK (BK:KBANK) SCB KTB

• กลุ่มประกัน BLA THRE THREL

• กลุ่มที่มีต้นทุน หรือหนี้สินสกุลเงินต่างประเทศ GULF, BGRIM, EGCO PTT (BK:PTT), PTTEP, PTTGC, BA, AAV

สรุป กนง.มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมสิ้นเดือนนี้ คาดเป็นตัวกดดัน SET Index ช่วงสั้น อย่างไรก็ตามภาพรวมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และฟื้นตัวเด่นกว่าประเทศอื่นๆ บวกกับช่วงที่ผ่านมา SET Index ปรับตัวลงแรงจากช่วงเปลี่ยนผ่านของชุดรัฐบาล จน Valuation เริ่มน่าสนใจ แนะนำทยอยสะสมหุ้นใหญ่พื้นฐานดีเข้าพอร์ต อาทิ KBANK BBL GULF BGRIM PTT PTTGC เป็นต้น

ค้นหาหุ้น 2 สไตล์...รับมือตลาดย่อตัวแรง

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมา 5 วันทำการติดต่อกัน กดดันให้ SET Index ที่เคยบวกกว่า 3% ในเดือน พ.ค.นี้ พลิกกลับมา -0.42% mtd โดยมีหุ้นขนาดใหญ่หลายบริษัทถูกกดดัน แรงมากกว่าปกติ ส่วนหนึ่งเกิดจากความกังวลเสถียรภาพทางการเมือง รวมถึงรอดูความ ชัดเจนของนโยบายทางเศรษฐกิจ และเปลี่ยนผ่านไปสู่นโยบายใหม่จะราบเรียบหรือไม่ ?

ดังนั้นในช่วงรอการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลใหม่ ทำให้ประเมินทิศทางตลาดได้ยาก แต่มีการเท ขายหุ้นออกมาเยอะใรระยะเวลาสั้นๆ ทำให้มีหุ้นหลายบริษัทลงมาลึก ฝ่ายวิจัยจึงทำการ ค้นหาหุ้น 2 สไตล์...รับมือตลาดย่อตัวแรงในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล คือ

1. หุ้นพื้นฐานดี สำหรับสะสมลงทุนระยะกลางยาว (เสี่ยงต่ำ) แนะนำหุ้น Valuation ถูกต่ำ Book (PBV66F

2. หุ้นซิ่งลงลึกกว่าปกติ หวังเวลาฟื้นดีดกลับเร็ว สำหรับ Trading สั้นๆ (เสี่ยง สูง) แนะนำหุ้นเดือน พ.ค. mtd ลงลึกกว่าปกติ และมี Beta สูง ปกติจะดีดกลับ ได้แรง คือ PTTGC, HANA, AMATA, GUNKUL, KCE, GPSC, GULF

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย