รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

Scenario ของการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในคืนนี้

เผยแพร่ 07/04/2566 19:09
อัพเดท 09/07/2566 17:32
Scenario ของการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรและอัตราการว่างงานของสหรัฐในคืนนี้

ในวันนี้เวลา 19:30 จะมีการประกาศตัวเลขที่สำคัญมากๆนะครับ นั่นคือจะมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ หรือ Non-Farm Payrolls ออกมา พร้อมๆกับอัตราการว่างงาน ซึ่งเป็นตัวเลขตลาดแรงงานที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นตัวเลขที่เฟดให้ความสนใจเป็นพิเศษ และบ่งชี้ถึงทิศทางของอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

ในสัปดาห์นี้ได้มีการประกาศตัวเลขในตลาดแรงงานออกมาแล้ว 3 ตัวนะครับ ในวันอังคาร วันพุธ และวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขออกมาดังนี้ครับ

สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ประจำเดือนก.พ. พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะชะลอตัวของตลาดแรงงาน

ทั้งนี้ คาดว่าข้อมูลแรงงานที่ซบเซาดังกล่าวจะเป็นปัจจัยชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานลดลง 632,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 9.9 ล้านตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2564 และต่ำกว่าระดับ 10 ล้านตำแหน่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2564 รวมทั้งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 10.4 ล้านตำแหน่ง

นอกจากนี้ กระทรวงฯ ปรับลดตัวเลขการเปิดรับสมัครงานในเดือนม.ค.สู่ระดับ 10.6 ล้านตำแหน่ง จากเดิมที่ระดับ 10.8 ล้านตำแหน่ง

ตัวเลขการจ้างงานลดลงสู่ระดับ 6.1 ล้านตำแหน่ง ส่วนตัวเลขการปลดออกจากงานลดลงสู่ระดับ 1.5 ล้านตำแหน่ง และตัวเลขการลาออกจากงานโดยสมัครใจเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.0 ล้านราย

ทั้งนี้ ตัวเลข JOLTS นับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสนใจ โดยมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 145,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 210,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 261,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ.

ภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 75,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ขณะที่ภาคการผลิตมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 70,000 ตำแหน่ง

ADP ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนดังกล่าวเป็นหนึ่งในสัญญาณที่บ่งชี้การชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ภาคธุรกิจลดการจ้างงาน หลังพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปีที่แล้ว

ในขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 18,000 ราย สู่ระดับ 228,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ราย

นอกจากนี้ ภาพรวมตลาดแรงงานสหรัฐก็ยังไม่ชัดเจน เนื่องจากรัฐบาลปรับโมเดลคำนวณข้อมูลใหม่

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 6,000 ราย สู่ระดับ 1.8 ล้านราย เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 1.7 ล้านราย

นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและแรงงานที่อ่อนแอลง โดยล่าสุดกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 18,000 ราย สู่ระดับ 228,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 เม.ย. ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐกำลังชะลอตัวลง อันเป็นผลมาจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา

นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนพ.ค. หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเปิดรับสมัครงานต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี ซึ่งบ่งชี้ถึงตลาดแรงงานที่ซบเซา และจะเป็นปัจจัยชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 56.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนัก 43.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%

กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค.ในวันศุกร์นี้

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 239,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 311,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ.

นอกจากนี้ คาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.6% ในเดือนมี.ค.

ในขณะที่เฟดต้องการเห็นตัวเลขจ้างงานเฉลี่ยต่อเดือนราว 100,000 ตำแหน่ง หรือต่ำกว่านั้น ซึ่งจะสอดคล้องกับสภาพตลาดแรงงานที่ชะลอตัว

ส่วนการประกาศตัวเลขในคืนนี้จะค่อนข้างมีความซับซ้อนเป็นพิเศษนะครับ โดยเราจะจับตาแค่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพียงอย่างเดียวไม่ได้ แต่เราต้องจับตาตัวเลขอัตราการว่างงานและรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงกันด้วยนะครับ เนื่องจากเป็นตัวเลขที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นในคืนนี้ เราจะต้องจับตาตัวเลขกันทั้งหมด 4 ตัวดังนี้ครับ

1. รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเมื่อเทียบเดือนต่อเดือน

2. รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเมื่อเทียบปีต่อปี

3. ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร

4. อัตราการว่างงาน

เนื่องจากเราต้องพิจารณาตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเข้ามาร่วมด้วยนั่นเอง เลยทำให้การวิเคราะห์การประกาศตัวเลขในคืนนี้จะมีความซับซ้อนมากครับ เนื่องจากตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงหรือที่เรียกกันว่าตัวเลขค่าจ้างนั้นสามารถบ่งชี้ถึงอัตราเงินเฟ้อในอนาคตได้อย่างมาก ดังนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลขที่เฟดจะให้ความสนใจมากเช่นกัน

กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานประจำเดือนมีนาคมในคืนนี้ เวลา 19:30

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 239,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 311,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ.

นอกจากนี้ คาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.6% ในเดือนมี.ค.

ในขณะเดียวกัน ตลาดคาดการณ์ว่ารายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเมื่อเทียบเดือนต่อเดือนจะออกมาที่ 0.3% เพิ่มขึ้นจากตัวเลขในครั้งก่อนที่ออกมาที่ 0.2%

และตลาดคาดการณ์ว่ารายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเมื่อเทียบปีต่อปีจะออกมาที่ 4.3% ลดลงจากตัวเลขครั้งก่อนที่ออกมาที่ 4.6%

ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ

ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน และตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง ถือเป็นตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอีกตัวหนึ่ง ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินในเดือนหน้า

และถ้าหากตัวเลขทั้ง 4 ตัวออกมาสอดคล้องกันทั้งหมด ตลาดจะวิ่งแรงมากครับ นั่นคือ ในกรณีที่ตัวเลขทั้ง 4 ตัวออกมาเขียวทั้งหมด หรือในกรณีที่ตัวเลขทั้ง 4 ตัวออกมาแดงทั้งหมด

ในกรณี Best Case

1. รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเมื่อเทียบเดือนต่อเดือนและปีต่อปีออกมาต่ำกว่าคาด ซึ่งจะบ่งชี้ถึงเงินเฟ้อที่จะลดลงในอนาคต เนื่องจากผู้บริโภคจะมีกำลังซื้อลดลงจากตัวเลขค่าจ้างที่ออกมาลดลง

นั่นคือ รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเมื่อเทียบเดือนต่อเดือนออกมาต่ำกว่า 0.3%

และรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเมื่อเทียบปีต่อปีออกมาต่ำกว่า 4.3%

2. การจ้างงานนอกภาคการเกษตรออกมาน้อยกว่าคาด นั่นคือ ตัวเลขออกมาต่ำกว่า 239K

3. อัตราการว่างงานออกมาสูงกว่า 3.6%

นั่นคือ ตัวเลขทั้ง 4 ตัวออกมาแดงทั้งหมด

แบบนี้คือ ตลาดแรงงานเริ่มได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดครับ รวมทั้งเงินเฟ้อยังมีแนวโน้มลดลงอีกด้วย ซึ่งจะหมายความได้ว่า...โอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% อีกครั้งในการประชุมในเดือนหน้าจะน้อยลงทันที

และจะทำให้ตลาดหุ้น ทองคำ และ BTC พุ่งขึ้นครับ

ส่วนดัชนีดอลลาร์สหรัฐ DXY จะร่วงลงครับ

ในกรณีนี้จะตีความได้ว่าการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดทำให้ตลาดแรงงานมีการชะลอตัว และสามารถกดความต้องการซื้อของผู้บริโภคได้ เนื่องจากธุรกิจต่างๆในสหรัฐต้องแบกรับภาระต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด จึงทำให้แบกรับภาระด้านค่าจ้างไม่ไหว ทำให้มีการปลดพนักงานบางส่วนออกไป จึงทำให้มีคนตกงานเพิ่มขึ้น และการที่ธุรกิจเหล่านี้แบกรับภาระด้านค่าจ้างไม่ไหวเลยส่งผลให้มีการลดค่าแรงของพนักงานลง สะท้อนจากรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงที่ออกมาลดลง ซึ่งหมายความว่าเฟดสามารถกดความต้องการซื้อของผู้บริโภคได้จริง และอาจทำให้เงินเฟ้อลดลงในอนาคตได้เช่นกัน ดังนั้นเฟดจึงไม่จำเป็นที่จะต้องขึ้นดอกเบี้ยมากขึ้นในอนาคตเนื่องจากไม่ต้องการให้ตลาดแรงงานต้องชะลอตัวลงไปมากกว่านี้ และอาจส่งผลให้ตลาดหุ้น ทองคำ และ BTC พุ่งขึ้นทันทีครับ

ในกรณี Worst Case

1. รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงออกมาสูงกว่าคาด โดยเฉพาะถ้าออกมาสูงกว่าตัวเลขในครั้งก่อนด้วย ซึ่งจะบ่งชี้ถึงเงินเฟ้อที่จะยังไม่ลดลงง่ายๆในอนาคต เนื่องจากผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้นจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น

นั่นคือ รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเมื่อเทียบเดือนต่อเดือนออกมาสูงกว่า 0.3%

และรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเมื่อเทียบปีต่อปีออกมาสูงกว่า 4.3% โดยเฉพาะในกรณีที่ตัวเลขออกมาสูงกว่า 4.6% ซึ่งจะหมายความว่า ตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเมื่อเทียบปีต่อปีจะออกมาสูงกว่าตัวเลขในครั้งก่อนอีกด้วย

2. การจ้างงานนอกภาคการเกษตรออกมาสูงกว่าคาดมากๆ นั่นคือ ตัวเลขออกมาสูงกว่า 239K มากๆ โดยเฉพาะในกรณีที่ตัวเลขออกมาสูงกว่า 311K ซึ่งจะหมายความว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะออกมาสูงกว่าตัวเลขในครั้งก่อนอีกด้วย

3. อัตราการว่างงานออกมาต่ำกว่า 3.6% ซึ่งจะหมายความว่า นอกจากอัตราการว่างงานจะออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์แล้ว ยังออกมาต่ำกว่าอัตราการว่างงานในครั้งก่อนอีกด้วย

นั่นคือ ตัวเลขทั้ง 4 ตัวออกมาเขียวทั้งหมด

แบบนี้คือ ตลาดแรงงานนั้นยังคงมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมากครับ และเงินเฟ้ออาจจะยังไม่ลดลงง่ายๆในอนาคต ซึ่งจะหมายความได้ว่า...โอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% อีกครั้งในการประชุมในเดือนหน้าจะสูงขึ้นทันที

และจะทำให้ตลาดหุ้น ทองคำ และ BTC จะร่วงลงทันทีครับ

ส่วนดัชนีดอลลาร์สหรัฐ DXY จะพุ่งขึ้นอย่างมาก

ในกรณีนี้ต้องจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรให้ดีๆเลยนะครับว่าจะออกมาดีกว่าคาดมากแค่ไหน โดยเฉพาะถ้าตัวเลขออกมาสูงกว่า 311K ตลาดจะตีความว่า...ตัวเลขตลาดแรงงานออกมาแข็งแกร่ง และเศรษฐกิจสหรัฐยังคงดีอยู่ ทำให้บริษัทต่างๆมีกำไรจากการประกอบธุรกิจเพิ่มขึ้น ทำให้มีกำลังในการจ้างงานเพิ่มขึ้น รวมถึงมีกำลังในการขึ้นค่าจ้างให้กับพนักงานมากขึ้นในภาวะที่ค่าครองชีพสูงจากภาวะเงินเฟ้อสูงในขณะนี้ และการที่พนักงานได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้น ทำให้มีกำลังซื้อมากขึ้น ดังนั้นต่อให้ราคาสินค้าจะยังคงแพงขึ้น แต่พนักงานเหล่านี้ก็ยังมีกำลังซื้อที่จะซื้อสินค้าในราคาแพงได้อยู่ และตราบใดที่สินค้าในราคาแพงยังคงขายได้เนื่องจากผู้บริโภคยังคงมีกำลังซื้อสินค้าในราคาแพงจากค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น ก็จะทำให้ราคาสินค้าก็จะยังคงสูงอยู่ต่อไป และมีแนวโน้มที่จะลดลงได้ยาก ดังนั้นจึงเป็นข้อบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงไม่ลดลงง่ายๆเช่นกัน และเงินเฟ้อยังมีโอกาสสูงขึ้นอีกด้วย ตลาดอาจมองว่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยมากขึ้นในอนาคตเพื่อจัดการปัญหาเงินเฟ้อ โดยที่ไม่ต้องกังวลกับตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งอยู่ในขนาดนี้ และอาจส่งผลให้ตลาดหุ้น ทองคำ และ BTC ร่วงลงทันทีครับ

การที่ตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเป็นอีกตัวเลขที่มีผลต่อตลาดมาก เลยทำให้การเคลื่อนไหวของตลาดในคืนนี้จะมีความซับซ้อนพอสมควร และแตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา

อย่าลืมติดตามการประกาศตัวเลขสำคัญในคืนนี้กันด้วยนะครับ ซึ่งจะทำให้ทั้งตลาดหุ้น ทองคำ และ BTC มีความผันผวนเป็นอย่างมาก!!!

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย