รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

“ทองคำ” ดีดแรง มีโอกาสแตะ 2,200 ดอลลาร์ ดักทางตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ - ราคาน้ำมัน

เผยแพร่ 07/04/2566 14:15
อัพเดท 09/07/2566 17:32

นักลงทุนรุ่นใหม่ มอง “ทองคำ” มีโอกาสดีดกลับขึ้นมาทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบหนึ่งปี รับปัจจัยบวกตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด บวกแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงความตึงเครียดระหว่าง NATO กับรัสเซีย อย่างไรก็ตามยังต้องจับตาการประกาศตัวเลข Non-Farm Payroll คืนวันศุกร์นี้ ตลอดจนการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันอาจทำให้ FED ไม่ปรับนโยบายการเงินเข้าสู่ภาวะผ่อนคลายตามคาด

นายณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุนและผู้ก่อตั้ง Creative Investment Space (CIS) สถาบันให้ความรู้ด้านนวัตกรรมการลงทุนรูปแบบใหม่ เปิดเผยว่า ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา “ทองคำ” มีราคาปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่า 10% จนเกือบแตะจุดสูงสุดเดิมในรอบหนึ่งปี ที่ 2,057 ดอลลาร์ มองว่าเป็นเพราะตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ประกาศออกมาในช่วงหลัง เริ่มออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ทำให้ตลาดเริ่มกังวลกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ที่อาจจะเกิดขึ้น ประกอบกับ NATO ได้รับประเทศฟินแลนด์เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ ทำให้เกิดความตึงเครียดขึ้นในภูมิภาคยุโรปตอนเหนือ เนื่องจากฟินแลนด์มีพรมแดนติดกับประเทศรัสเซีย ถ้าหากรัสเซียมีการบุกเข้ามายังชายแดนฟินแลนด์ กลุ่มประเทศ NATO พร้อมที่จะโต้ตอบได้ทันที ดังนั้น “ทองคำ” ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) จึงมีแรงซื้อเข้ามามากขึ้น

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก FED Watch Tool ยังบอกว่ามีโอกาส 50% ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะขึ้นดอกเบี้ยอัตรา 0.25% ในการประชุมเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ และหลังจากนี้จะหยุดการขึ้นดอกเบี้ย หรือ อาจจะเริ่มมีการลดดอกเบี้ยเป็นครั้งแรก ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า และส่งผลบวกต่อราคาทองคำในที่สุ

โดย Dollar Index ปรับตัวลงต่อเนื่องจนใกล้เคียงที่จะแตะระดับต่ำสุดที่เคยเกิดขึ้นในปีนี้ที่ระดับ 101.90 จุด และแนวโน้มระยะสั้นยังคงเป็นขาลง ทำให้สินทรัพย์อื่น ๆ มีแรงซื้อกลับเข้ามา ถ้าหาก FED กลับลำนโยบายทางการเงินมาเป็นผ่อนคลายก็จะส่งผลบวกต่อทองคำตลอดทั้งปีนี้

“อย่างไรก็ตาม วันศุกร์นี้ (7 มี.ค. 66) สหรัฐฯ จะประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Payroll) ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 238,000 ตำแหน่ง ถ้าออกมาในระดับนี้ หรือ น้อยลง จะเป็นผลดีต่อ “ทองคำ” และในวันเดียวกันยังมีการประกาศอัตราการว่างงาน ถ้าออกมามากกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 3.7% ก็จะเป็นผลดีต่อทองคำเช่นกัน โดยสองดัชนีนี้นับว่ามีความสำคัญมากกว่า ดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ถ้าออกมาแล้วไม่เป็นไปตามที่คาดก็อาจมีแรงเทขายในทองคำออกมาเช่นกัน”

ทั้งนี้ กลยุทธ์การลงทุนมองในด้านเทคนิค ราคาทองคำ มีแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 2,057 ดอลลาร์ ถ้าสามารถผ่านระดับนี้ไปได้จะมีเป้าหมายต่อไปที่ระดับ 2,214 ดอลลาร์ แต่ถ้ามีการปรับตัวลงแนวรับที่ใช้เป็นจุด “ซื้อ” ได้อยู่ที่ 1,960 ดอลลาร์

นายณพวีร์ กล่าวว่า ส่วนราคา “น้ำมัน” ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ดีดกลับมาขึ้นแรงเกือบ 10% หลังจากที่ติดลบราว 8% และทำให้ผลตอบแทนในปีนี้กลับมาเป็นบวก น่าจะมีสาเหตุมาจากกลุ่มประเทศโอเปกพลัสหันมาลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง ทำให้เกิดแรงซื้อเข้ามาอย่างหนาแน่น โดยโกลด์แมน ซาคส์ (Goldman Sachs) และวานิชธนกิจอื่น ๆ ออกมาคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันอาจจะกลับมาแตะ 100 ดอลลาร์ ได้ในที่สุด

อย่างไรก็ตาม มีมุมมองจากองค์กรเศรษฐกิจระดับโลกอย่าง IMF และ OECD ที่ออกมาคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกในปีนี้ มีโอกาสจะเติบโตลดลง และมีโอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อราคาน้ำมัน จึงยังไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่าราคาน้ำมันจะกลับมาเป็นขาขึ้น หรือ ไม่

ทางด้าน มุมมองเชิงเทคนิคของราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ระยะสั้น มีแนวต้านที่ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ถ้าสามารถผ่านแนวต้านนี้ไปได้ มีแนวโน้มที่จะกลับมาเป็นขาขึ้นอย่างเต็มตัว เพราะเป็นการผ่านแนวต้านที่กดราคาเป็นขาลงมาตั้งแต่ต้นปี 2566 และยังเป็นการกลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ขณะที่แนวรับอยู่ที่ระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

“เวลานี้ต้องจับตาราคาน้ำมันดิบ ถ้าหากกลับมาเป็นขาขึ้นจริง อาจจะทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง จนอาจทำให้ FED ไม่สามารถกลับทิศนโยบายการเงินจากเข้มงวดมาเป็นผ่อนคลายได้ จึงอาจยังไม่เห็นการลดดอกเบี้ยในปีนี้ และทำให้อัพไซด์ของราคาทองคำอาจจะมีจำกัด”

ความคิดเห็นล่าสุด

ทำไมตัวเลขคาดการณ์ของ Investing กับตัวเลขของForex fectory ไม่เท่ากัน ตัวเลขของFF น่าจะเรียวทามกว่าน่ะเพราะตัวเลขออกมาแล้วดอลล่าห์พุ่งขึ้นมาก
Lol
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย