🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

ยังต้องอยู่ในความผันผวนต่อไปอีกระยะ 

เผยแพร่ 16/03/2566 09:37
SETI
-

ปัญหาที่เกิดขึ้นกับสถาบันการเงินในสหรัฐฯ - ยุโรป ยังมีสัญญาณของการขยายวง ต่อ โดยที่ล่าสุดประเด็นมาอยู่ที่ Credit Suisse ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวลดลงแรงจะ สร้าง New Low ขณะที่ CDS ปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเฉพาะอย่างยิ่งช่วงอายุ 1 ปี ทั้งนี้เป็นผลมาจากการที่ Saudi National Bank ออกมาแสดงท่าที่ว่าจะไม่ สามารถสนับสนุนทางการเงินไปได้มากกว่านี้ เราประเมินว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ สถาบันการเงินหลายแห่งในช่วงนี้ เป็นผลมาจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยขึ้นอย่าง รวดเร็วของธนาคารกลางต่างๆ สร้างแรงกดดันต่อทั้งคุณภาพสินเชื่อของธนาคาร และเงินลงทุนในตลาดการเงิน และยังมีโอกาสที่สถานการณ์ดังกล่าวยังดำเนิน ต่อไป ซึ่งก็จะส่งผลทำให้ตลาดการเงินอยู่ในความผันผวน แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมี สัญญาณช่วยพยุงหาก ธนาคารกลางต่างๆ ชะลอ หรือหยุดการปรับขึ้นดอกเบี้ย

แม้วานนี้ SET Index จะดีดตัวกลับขึ้นมาได้แรง แต่ภาวะผันผวนอันเนื่องมาจาก ปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐ-ยุโรป ก็ยังจะดำเนินต่อไป ประเมินกรอบ 1543 – 1573 จุด Top Pick เลือก AMATA, CRC และ GPSC

ปลายทางของการขึ้นดอกเบี้ย กำลังจะเป็นจุดเริ่มต้นของ RECESSION ?

ปัจจัยเสี่ยงยังคงถาโถมเข้ามาต่อเนื่อง นับตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังสถาบัน การเงินสหรัฐฯ 3 แห่ง ต้องปิดตัวลง ขณะที่สถานการณ์ล่าสุดเริ่มเห็นการลุกลามไปในฝั่ง ยุโรปมากขึ้น เป็นเพราะ Credit Suisse ธนาคารยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์มี ระดับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นมาก หลังผู้ถือหุ้นรายใหญ่อย่าง Saudi National Bank (SNB) ได้ ออกมาประกาศว่าไม่สามารถให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนเพิ่มได้แล้ว เนื่องจากถือหุ้น มากกว่า 10% แล้วหากเพิ่มทุนเข้าไปจะเป็นการผิดกฎระเบียบธนาคาร ทำให้ค่าประกัน หนี้เสีย Credit Default Swap (CDS) อายุ 1 ปี(ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 3,701 จุด พุ่งสูงสุด เป็นประวัติการณ์) มากกว่าอายุ 2 ปี-10 ปี สะท้อนความกังวลว่าธนาคารจะเสี่ยงผิดนัด ชำระหนี้ภายปีนี้

ผลกระทบในภาคธนาคารที่ต้องแบกรับต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก จนคุณภาพ ของสินเชื่อลดลง ขณะที่ตลาดการเงินขาดสภาพคล่อง ทำให้มีความสุ่มเสี่ยงต่อดำเนิน ธุรกิจของสถาบันการเงินมากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการการดำเนินนโยบายการเงิน เชิงรุกของธนาคารกลางทั่วโลกในช่วงปีที่ผ่านมา (Fed +4.25%, BoE +3.25%, ECB +2.5%) ขณะที่ในปี 2566 เริ่มเห็นปลายทางของการปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังอัตราเงินเฟ้อ ทยอยลดลงเรื่อยๆ บวกกับความเสี่ยงในภาคธนาคารอาจส่งผลกระต่อเศรษฐกิจใน ภาพรวมหากธนาคารกลางไม่ชะลอการขึ้นดอกเบี้ย มีรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้

• ยุโรป ซึ่งจะมีในวันนี้ เวลา 20.15 น. ตลาดคาดว่า ECB จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% - 0.5% เป็น 3.25% - 3.5% อีกทั้งยุโรปยังมีความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย ค่อนข้างมาก เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง

• สหรัฐฯ ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 22 มี.ค. ตลาดให้น้ำหนักราว 54.6% ที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็นมีความเป็นไปได้ถึง 45.4% ที Fed จะไม่ปรับขึ้น ดอกเบี้ย

ระดับความกลัวที่เพิ่มขึ้น ตลาดหุ้นเกิดการ Panic Sell ออกมาอีกหนึ่งระลอก เฉพาะอย่าง ยิ่งในฝั่งยุโรปที่ร่วงลงแรงกว่า -3.3% ถึง -3.8% ส่วนฝั่งสหรัฐฯ ค่อนข้างผันผวนปิดตัวราว +0.05% ถึง -1.74% ทำใมห้เม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย มากขึ้น สะท้อนจาก Dollar Index ดีดตัวแข็งค่าแรงกว่า 1.1% ประกอบกับ Bond Yield สหรัฐ 2 ปี และ 10 ปี ร่วงลงมาแรง และยังเห็นสัญญานการเกิดเศรษฐกิจ Recession ต่อเนื่อง จากตัวเลข Inverted Yield Curve ระหว่าง Bond Yield 10 – 2 ปีที่ยังคงติด ลบ 0.43% ทั้งนี้ความเสี่ยงที่เกิดขึ้น คาดว่าจะเป็น Sentiment เชิงลบต่อตลาดหุ้นไทย ในช่วงนี้เช่นกัน

สรุป ผลลัพธ์ของการดำเนินนโยบายการเงินเชิงงรุกของธนาคารกลางทั่วโลกในช่วงปีที่ ผ่านมา ทำให้ภาคธนาคารกำลังประสบปัญหาทั้งต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นอย่าง รวดเร็วกระทบคุณภาพของสินเชื่อลดลด ขณะที่มูลค่าสินทรัพย์ทางการเงินที่ลดลงทุน ด้อยค่า ตามมาด้วยการเกิดเป็นความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง ทำให้ยกระดับความกังวล เรื่องเศรษฐกิจถดถอย กดดันให้ตลาดการเงินผันผวนต่อเนื่อง ขณะที่ปี 2566 เริ่มเห็น ปลายทางของการปรับขึ้นดอกเบี้ยในหลายประเทศมากขึ้น

ราคา CREDIT SUISSE ที่ตกทางโน้น หนาวถึง SET ทางนี้

แม้วานนี้ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวแรง 41.11 จุด หรือ 2.7% และ Fund Flow ต่างชาติกลับมา ซื้อสุทธิหุ้นไทย 960 ล้านบาท เป็นการซื้อสุทธิครั้งแรก หลังจากขายสุทธิติดต่อกันมา 1 เดือนเต็ม พร้อมกับซื้อสุทธิ SET50 Futures สูงถึง 61,288 สัญญา

แต่หลังจากตลาดปิด เกิดความกังวลวิกฤต ธ.พ. ขนาดใหญ่ อย่าง Credit Suisse ขาด สภาพคล่อง (รายละเอียดตามหัวข้อก่อนหน้า) กดดันตลาดหุ้นโลกปรับฐานแรง ขณะเดียวกันยังมี บริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจในไทย หนึ่งในนั้นคือ บริษัทหลักทรัพย์ เครดิต สวิส (ประเทศไทย) จํากัด และหากดูข้อมูลซื้อขายหุ้นไทยในปีนี้ (1 ม.ค. – 15 มี.ค. 66) มีมูลค่ารวม 7.4 หมื่นล้านบาท (คิดเป็นสัดส่วน 1.2% ของมูลค่าซื้อขายทั้งหมด) มี อันดับมูลค่าซื้อขายรวมสูงเป็นอันดับที่ 23ใน 38 โบรกเกอร์ขณะที่ปีนี้ขายสุทธิมาแล้ว 5.5 พันล้านบาท ซึ่งขายสูงสุดเป็นอันดับที่ 7 ใน 38 โบรกเกอร์

หากความกังวล Bank Run ใน Credit Suisse มีความต่อเนื่อง อาจส่งผลพวงให้ Fund Flow ต่างชาติที่มีสัดส่วนจาก บล. เครดิต สวิส 1.2% สะดุด และภาพรวม Fund Flow ต่างชาติไหลเข้าหุ้นไทยน้อยลงได้

ทำให้นักลงทุนกังวลว่า ธ.พ. อื่นๆจะเกิดวิกฤตดังกล่าว และกังวลถึงการเกิด Recession มากขึ้น โดยวานนี้ WTI Oil ปรับตัวลง 5.2% อยู่ระดับ 68 เหรียญฯและดัชนี MSCI ACWI ปรับตัวลง -1.1% โดย Sector ที่ปรับตัวลงมากสุด คือ พลังงาน -5.5% และการเงิน - 2.8%

ซึ่งหากพิจารณาถึงผลกระทบต่อ SET Index น่าจะได้รับแรงกระแทกพอสมควร เนื่องจาก SET Index มีน้ำหนักในอุตสาหกรรมพลังงาน 20% ธ.พ. 9% รวม 2 อุตสาหกรรมเกือบ 30%

สรุป ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสได้รับแรงกระแทกจากวิกฤตดังกล่าวมากพอสมควร เนื่องจากสัดส่วน Market Cap ของ 2 อุตสาหกรรมมีมากถึง 30% โดยฝ่ายวิจัยฯมอง แนวรับแรกของ SET Index วันนี้ที่ระดับ 1543 จุด ส่วนแนวรับสำคัญ คือ 1520 จุด (ระดับวัดใจของ SET)

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำถือเงินสดบางส่วนราว 10 – 20% และเลือกหุ้นที่พื้นฐาน แข็งแกร่ง Domestic Play อย่าง CRC GPSC AMATA เป็นหุ้น Top picks

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย