บรรยากาศดูไม่สดชื่น
บรรยากาศความกลัวเรื่องเดิมคือท่าทีของ Fed ที่มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย มากกว่าคาด และคงไว้ที่เพดานระดับสูง (เพดานจากผลสำรวจของ Fed Watch Toolอยู่ที่ 5.75%) ยาวนานขึ้น กลับมารบกวนตลาด ซึ่งในส่วนของบ้านเรา อาการที่ปรากฎออกมาถูกสะท้อนผ่านความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนใน ระดับสูง ซึ่งมีส่วนให้Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติ ยังไหลออก เหตุเพราะ FX Risk สูงขึ้น ประเมินว่าทิศททางของ SET Index ในช่วงนี้ น่าจะมีลักษณะของการ ผันผวนในกรอบที่แคบลง เพื่อรอดูผลการประชุมธนาคารกลางหลายแห่ง ที่จะมี การประชุมในช่วงครึ่งหลังของเดือน มี.ค.66 ขณะที่กลางสัปดาห์หน้า จะมีการ รายงานตัวเลขเงินเฟ้อ เดือน ก.พ.66 ของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจของ Fed 23 มี.ค.66 ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% หรีอ 0.5%
คาดว่า SETIndex ยังอยู่ในภาวะที่ขาดแรงขับเคลื่อน ทำให้ยังผันผวนแต่กรอบจะ แคบลง ประเมินอยู่ในช่วง 1600 – 1620 จุด สำหรับหุ้น Top Pick เลือก CBG, MAJOR และ SAPPE
ความกังวลเรื่องดอกเบี้ยสูง ทำตลาดหุ้นไร้ทิศทางในช่วงนี้
วานนี้ตลาดหุ้นต่างประเทศปรับตัวในกรอบแคบ โดยในฝั่งสหรัฐปิดตัวราว -0.2% ถึง +0.4% ส่วนฝั่งยุโรปปิดตัวราว -0.2% ถึง +0.5% หลังผ่านช่วง Panic Sell ในวันก่อนหน้า จากความกังวลในเรื่องสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed ที่อาจแรงคาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกัน Bond Yield สหรัฐ 10 ปี และ 2 ปี ยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 3.99% และ 5.07% ตามลำดับ ทำให้เกิดภาวะ Inverted Yield Curve ที่ติดลบมากขึ้นถึง 1.07% และเมื่อพิจารณาจากข้อมูลอดีต ในช่วงภาวะดังกล่าวเป็นความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อ ความผันผวนในตลาดหุ้นทั้งฝั่งสหรัฐรวมถึงบ้านเราและเคลื่อนไหวแบบไม่มีทิศทาง
ขณะเดียวกันภาพตลาดแรงงานสหรัฐในปัจจุบันที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ Fed ดำเนินนโยบายที่เข้มงวดมากขึ้น เพื่อกดให้เงินเฟ้อลงมาสู่กรอบเป้าหมายที่ 2% โดย ตัวเลขภาคแรงงานที่ประกาศออกมาล่าสุด ได้แก่
• การจ้างงานภาคเอกชนจากสถาบัน ADP เดือน ก.พ. อยู่ที่ระดับ 242,000 ตำแหน่ง สูงกว่าตลาดคาดที่ระดับ 205,000 ตำแหน่ง และสูงกว่าเดือนก่อนที่ ระดับ 106,000 แสนตำแหน่ง
• การเปิดรับสมัครงานของสหรัฐ (JOLTs Job Opening) เดือน ม.ค. อยู่ที่ระดับ 10.82 ล้านตำแหน่ง ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนที่ 11.23 ล้านตำแหน่งแต่มากกว่า คาดที่ 10.50 ล้านตำแหน่ง
อย่างไรก็ตามในวันศุกร์ (10 มี.ค.) จะมีการประกาศทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาค การเกษตร (Nonfarm Payrolls) อัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) รวมถึง ค่าจ้างแรงงานราย ช.ม. ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดที่ตลาดให้ความสำคัญ ดังนั้นหากตัวเลข เศรษฐกิจดังกล่าวชะลอตัวมากกว่าคาด อาจหนุนให้ Fed ขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% ได้ แต่หากมากกว่าตลาดคาด จะเป็นการย้ำชัดในการขึ้นดอกเบี้ยระดับ 0.5%
ขณะที่เช้านี้ ทางการจีนเผยตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.พ. อยู่ที่ระดับ +1.0%YoY และ - 0.5%MoM ซึ่งต่ำกว่าคาดมาก แสดงให้เห็นเศรษฐกิจจีนฟื้นขึ้นมาช้า แต่หากมองในอีก แง่มุมหนึ่งก็เป็นปัจจัยให้รัฐบาลจีนสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขึ้น และมีโอกาสในการ เติบโตได้อีกมาก
สรุป ความกังวลที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าคาด ทำ Bond Yield สหรัฐ 10 ปี และ 2 ปี พลิกกลับมาสูงขึ้นต่อเนื่อง จนเกิดภาวะ Inverted Yield Curve ที่ยาวนาน ส่งผล ให้ตลาดหุ้นผันผวน
ค่าเงินผันผวน และ FUND FLOW ยังมีโอกาสชะลอการไหลเข้า เน้น SELECTIVE หุ้น แนะ MAJOR CBG SAPPE
บรรยากาศตลาดหุ้นไทย ยังอยู่ในภาวะความกังวล Fed มีความกล้ามากขึ้นในการขึ้น ดอกเบี้ย กดดันให้ดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่า และส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าขึ้น ล่าสุดยืน เหนือ 35 บาทต่อเหรียญอีกครั้ง ถือเป็น FX Risk ต่อ Fund Flow ส่งผลให้มีโอกาสไหล ออกต่อเนื่องได้ โดยวานนี้ต่างชาติยังขายสุทธิหุ้นไทยสูงถึง 3.9 พันล้านบาท และเป็นการ ขายสุทธิติดต่อกัน 14 วันทำการกว่า 3.7 หมื่นล้านบาท
หากเปรียบเทียบค่าเงินบาทกับ Fund Flow จะเห็นได้ชัดว่ามีความสัมพันธ์ในทิศทาง ตรงกันข้ามกัน คือ เวลาที่ค่าเงินบาทแข็ง Fund Flow ก็มักจะไหลเข้าตลาดหุ้น แต่เวลาที่ บาทอ่อน Fund Flow ก็มักจะไหลออกเช่นกัน โดยตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ. 66 ถึงปัจจุบัน บาท อ่อนค่ามา 6.3% ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 5.3 หมื่นล้านบาท
ภายใต้ Fund Flow ที่ยังชะลอไหลเข้าหุ้นไทย ค่าเงินบาทยังผันผวน อีกหนึ่งกลยุทธ์ การลงทุนในช่วงนี้แนะนำ Selective Play โดยเลือกหุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เข้าสู่ ช่วง High Season ในช่วงฤดูร้อน อย่าง CBG SAPPE และ MAJOR เป็น Top Pick ในวันนี้
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities