วันนี้ (28 ก.พ.) ราคาทองคํายังคงแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบระหว่าง 1,804.91-1,819.33 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (16.45 น.) ทั้งนี้ แม้ว่า ราคาทองคําจะสามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้ในคืนที่ผ่านมา (27 ก.พ.) โดยมีปัจจัยบวกมาจากแรงขายทํากําไรในดอลลาร์ ประกอบกับการเปิดเผย ตัวเลขยอดคําสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือนม.ค. ของสหรัฐ ที่พบว่าร่วงลงมากกว่าที่คาดการณ์ สะท้อนถึงแนวโน้มที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจอาจ ชะลอตัวลง จึงช่วยลดความเป็นไปได้ที่ธนาคากลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนมี.ค. นี้ ค่าเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจึงปรับตัวลง พยุงให้ราคาทองคําปรับตัวขึ้น ขณะที่ในวันนี้ ค่าเงินดอลลาร์ถูกกดดันจากปรับตัวขึ้นของ ค่าเงินปอนด์และยูโร จึงกลายเป็นปัจจัยเสริมให้ราคาทองปรับตัวขึ้นมา อย่างไรก็ดี เนื่องด้วยหลายฝ่ายยังให้น้ําหนักกับตัวเลขเศรษฐกิจที่ สําคัญอย่าง ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI), ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (CPE) เดือนม.ค. โดย ตัวเลขทั้งหมดนั้นออกมาสูงกว่าคาดการณ์ บ่งชี้ว่า ระดับเงินเฟ้อในสหรัฐยังคงค้างตัวอยู่ในระดับสูง ตลาดจึงยังคงกังวลต่อประเด็นการขึ้น อัตราดอกเบี้ยของเฟด ทําให้ค่าเงินดอลลาร์ยังทรงตัวอยู่ในทิศทางขาขึ้น ราคาทองคําจึงฟื้นตัวได้อย่างจํากัด ถึงกระนั้น โปรดติดตามตัวเลข เศรษฐกิจรายการอื่นของสหรัฐ รวมไปถึงถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ที่จะทยอยออกมาหลังจากนี้ เพื่อประเมินระดับความแข็งกร้าวใน การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดต่อไป
คําแนะนํา
• ราคาแกว่งตัวในทิศทางอ่อนตัวลง โดยสร้างระดับต่ําสุดใหม่จากวันก่อนหน้าอย่างต่อเนื่อง
• หาจังหวะเปิดสถานะขายบริเวณแนวต้าน 1,820-1,827 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• ตัดขาดทุนหากราคาผ่านแนวต้าน 1,827 ดอลลาร์ต่อออนซ์
•ทยอยปิดสถานะขายทํากําไร หากราคาไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,800-1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th